คอตต้อน อีส

คอตต้อน อีส คือแบรนด์ลิปสติกธรรมดา ที่ธรรมดายันกล่อง แต่ถ้าคุณดูดี ๆ ไม่ต้องใช้แว่นขยาย นี่ไม่ใช่แค่กล่องลิปสติกที่รักษ์แค่โลก แต่รักคุณด้วย

สาว ๆ หลายคนมักจะเข้าออกร้านเครื่องสำอางค์เป็นประจำ แม้ไม่ชอบแต่งหน้าก็ตาม ไอเท็มเด็ดสามัญประจำผู้หญิงอย่างเราคือ ลิปสติก ที่มีแล้ว ก็ต้องมีอีก จนรู้ตัวอีกที กระเป๋าใส่ลิปสติกก็มีที่ไม่พอ มองดูอีกที เหมือนเล่นเกมจับผิดภาพ เพราะไม่รู้ว่าสีไหนต่างกันอย่างไร

แรงบันดาลใจของกล่อง คอตต้อน อีส คือชาร์ตสีน้ำ และห่วงเก็บไหมปักผ้า ซึ่งทั้งสีน้ำ ไหมปักผ้า และลิปสติกเองก็ดี ผู้ออกแบบก็มักจะซื้อสีซ้ำ ๆ โดยไม่รู้ตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งสีนึงของเจ้าแรก ก็อาจจะได้สีเดียวกันกับอีกสีนึงของอีกเจ้า จนต้องทำแผ่นชาร์ตสีเพื่อให้รู้ข้อแตกต่างของแต่ละสี เพราะดูจากภายนอกก็ไม่รู้ว่าปาดออกมาจะได้สีอะไร เช่นเดียวกับลิปสติก ยิ่งเป็นเครื่องสำอางค์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่เปิดฝา ลิปสติกแต่ละแท่งก็ราคาไม่ใช่ถูก ๆ จะลองทาก่อนก็ไม่ได้ เลยอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมไม่มีใครทำชาร์ตสีลิปสติกบ้างกันนะ บวกกับหลาย ๆ ครั้งเรามักจะเสียดายกล่องสินค้าจนทิ้งไม่ลงแม้ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร เราจึงเอาปัญหาต่าง ๆ มาออกแบบเป็นกล่องลิปสติก คอตต้อน อีส และพบว่าวิธีแก้มันกลับง่ายเหมือนกล่องของพวกเรา

ในสินค้า คอตต้อน อีส จะประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ และ 5 ส่วนย่อย ก็คือ ตัวกล่อง และ ตัวลิปสติก

ในตัวลิปสติก จะประกอบด้วยแท่ง และเนื้อลิปสติก

ตัวเนื้อลิปสติกก็คือเนื้อลิปสติกแท่งทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษ (เพราะไม่ได้เรียนเวชสำอางค์) แต่ถ้าให้โม้ ลิปสติกจะเป็นเนื้อนุ่ม เนียน ประดุจปุยฝ้าย สมชื่อแบรนด์ เพิ่มเติมคืออาจจะใช้ไขถั่วเหลืองแทนตัวทำละลายถ้าเป็นไปได้เพื่อเอาใจสายวีแกนส์ และจากประสบการณ์ ไขถั่วเหลืองจะละลายง่ายกว่าขี้ผึ้ง ช่วยทำให้ลิปสติกของเราทาง่ายขึ้น ไม่มีสะดุด

แท่งลิปสติก ท่านอาจจะสงสัยในเมื่อจะดูรักษ์โลกแล้ว ทำไมไม่ทำแท่งกระดาษไปเลยล่ะ คำตอบง่ายมาก ถ้าลิปสติกกันน้ำ ทำไมแท่งลิปสติกกลับไม่กันน้ำล่ะ เราเลยเลือกใช้พลาสติกรีไซเคิลหลอมและผสมสีอีกที เพราะส่วนตัวคิดว่าลวดลายของพลาสติกหลอมละลายนั้นสวยดี และกันน้ำ เหมือนกับผ้าฝ้ายที่ตากฝนเท่าไหร่ก็ไม่ยุ่ย เพิ่มเติมคือทำฐาน 30 องศาตามความเอียงของลิป เพื่อที่สุดท้ายผู้ใช้จะได้สามารถใช้ลิปได้คุ้มค่าจนสุดแท่งจริง ๆ และออกแบบให้มีทรงสี่เหลี่ยม เพื่อให้ง่ายและประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ

ตัวกล่องสินค้า จะประกอบด้วย แผ่นสีพลาสติก กล่องกระดาษ และสติ๊กเกอร์

สติ๊กเกอร์นั้น ทำหน้าที่เป็นแทนแผ่นสติ๊กเกอร์พลาสติกแปะกันสินค้าห้ามใช้ แต่จะใช้เป็นเทปกาวย่นแทน เพราะรีไซเคิลได้ และเหนียวติดดี ถ้าใครคิดจะดึงออกจะเกิดเป็นรอยยืดสีขาว ๆ หรือรอยยับ หรือแย่กว่านั้นอาจติดเนื้อกล่องมาด้วย เพราะฉะนั้น ตัวเทปสามารถรับประกันว่าสินค้าไม่ถูกแกะมาก่อนได้ 100% โดยติดแค่ส่วนฝาบน เพราะฝาล่างจะถูกติดกาวกับแผ่นพลาสติกอยู่แล้ว เอาออกไม่ได้จนกว่าจะดึงแผ่นพลาสติกออก

ตัวกล่องกระดาษ ก็ทำมาจากกระดาษรีไซเคิล ก็กล่องกระดาษทั่วไป โดยการพิมพ์อาจจะใช้ความร้อนสร้างรอยไหม้เป็นอักษร หรือถ้าไม่ได้ อาจใช้หมึกจากถั่วเหลืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน

ส่วนสุดท้าย แผ่นสีพลาสติก ส่วนสำคัญของสินค้านี้ จะถูกแบ่งเป็น 4 ช่อง ช่องแรกคือรายละเอียด ชื่อยี่ห้อ ชื่อสีของลิปสติก ตามด้วยช่องสีของลิปสติกที่มีความเข้ม 80% 50% และ 20% ตามลำดับ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแกะแผ่นสีพลาสติกนี้ออกและนำมาทาบกับสีผิว หรือสีปากก็ได้ เพื่อให้เห็นว่า เมื่อสีของลิปสติกผสมกับสีผิวหรือสีปากของเราในระดับความเข้มต่าง ๆ จะได้สีผลลัพธ์ออกมาแบบไหน เพื่อใช้ในการทาปาก หรือแม้แต่ทาแก้มให้ได้สีที่ต้องการโดยไม่ต้องสควอตสีกับผิวให้เสียของ และสามารถเก็บไว้เป็นชาร์ตสีในห่วง พกไปร้านเครื่องสำอางค์เพื่อจะได้ไม่ต้องกลัวเผลอซื้อสีเหมือนกันกับที่มี กับแบรนด์ของเราหรือแบรนด์อื่นก็ตาม เพิ่มเติมคือ ด้านหลังจะระบุรอบผลิต วันที่ผลิต และวันหมดอายุเอาไว้เพื่อไม่ให้ผู้ใช้เผลอใช้เครื่องสำอางค์หมดอายุ เรียกได้ว่าทำงานได้หลากหลายเหมือนฝ้ายเลย

สำหรับสโลแกนในแบรนด์ของเรา

"Save the cotton, both ours & yours. เก็บฝ้ายไว้ในกระเป๋าคุณ"

ต้องการจะสื่อถึงฝ้ายที่มักจะใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาจจะหมายถึงเส้นใยบนกล่องกระดาษ หรือลิปสติกเนื้อฝ้าย แต่ที่อยากให้ผู้ใช้ได้เก็บจริง ๆ คือ ฝ้าย ที่อยู่ในธนบัตรต่างหาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมต้องเป็น คอตต้อน อีส

โดยสีที่ออกมาทั้งหมดมี 4 เฉดสี เกี่ยวกับ ฝ้าย (คอตต้อน) และคงความเป็นไทยเอาไว้ ได้แก่

01 สายไหม (cotton candy)

02 กระท้อน (กระท้อนปุยฝ้าย)

03 ๕๐๐ (ธนบัตร 500 บาท)

04 ๑,๐๐๐ (ธนบัตร 1,000 บาท)