กลับบ้าน
Team : ordinary people
Member
Ms nada hawan
นางสาว นดา ฮาวัน
เเนวคิด
- ระบบนิเวศจำทำให้โลกอยู่ได้ไปตลอด
- เริ่มจากอะไรง่ายๆจะทำให้ตัวเราเปลี่ยนนิสัยเดิมๆเป็นคนให้ที่ดีขึ้นดีจากตนเองเเละรอบข้างจะดีขึ้นเองได้
- เเพคเกจที่น้อยเเต่มาก เป็นได้มากกว่าเเพคเกจเดิมๆเเต่สร้างคุณค่าให้ตนเองเเละโลกทั้งใบ
- การกลับสู้ธรรมชาติ การกลับสู่จุดเริ่มต้นเเพละสร้างอนาคต
- เปลี่ยนจากเเก้วกาเเฟเเบบเดิมให้เเตกต่างเเต่มีเอกลักษณ์
เเก้วที่เราดีไซน์
ต้องการสร้างความเเตกต่างจากเเก้วกาเเฟเเบบเดิมให้มีเอกลักษณ์
เพื่อเราจะได้เห็นถึงความเเตกต่างระหว่างเเก้วกาเเฟเเบบเดิมๆ เมื่อผู้บริโภคถือเเก้วกาเเฟเราที่ออกเเบบ
จะรู้ได้เลยว่าผู้บริโภคมีความตั้งใจจะดื่มกาเเฟเเละปลูกต้นไมสร้างระบบนิเวศ
การที่เราจะเปลี่ยนรูปเเบบเเก้วอาจทำให้ผู้บริโภคอาจไม่ชินเเต่ก็ใช่ว่า ผู้บริโภคจะชอบรูปเเบบเเก้วเเบบเดิมๆเสมอไป
ขอยกตัวอย่างเช่น
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2010 Steve Jobs ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ iPhone 4 และตอบคำถามของสื่อมวลชน เนื่องจากตอนนั้นมีข่าวลือหนาหูว่า Apple กำลังจะผลิตสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่กว่า 3.5 นิ้ว โดยสตีฟ จ็อบส์ก็ได้ให้เหตุผลว่า Apple จะไม่ทำมือถือจอใหญ่กว่านี้หรอก เพราะมือถือจอใหญ่ไม่สามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้ (ในลักษณะของการลากนิ้วได้ทั่วหน้าจอ) และก็คงไม่มีใครซื้อมือถือจอใหญ่ ๆ หรอก!! นั่นก็คือเหตุผลที่ iPhone 4 ยังคงมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว เช่นเดียวกับ iPhone 2G รุ่นแรก
เพราะการใช้งานมือถือในยุคหลังผู้คนใช้จอดูสตรีมมิ่งมากขึ้นดีไซน์จึงเปลี่ยนไปตามความต้องการ การใช้งานของผู้บริโภคเเละเพราะความสะดวกสบายในการใช้งาน
ดังนั้นเเก้วกาเเฟอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเเบบเดิมเพราะทุกคนอาจไม่ได้ใช้งานเเค่อย่างเดิมเเล้ว
ถ้าเรามองใหม่ว่าเราต้องการจะทำเเก้วที่เพื่อคนที่อยากได้การใช้งานเเก้วกาเเฟที่เป็นมากกว่าเเก้วกาเเฟธรรมดา
เราจึงเปลี่ยนจากเเก้วกาเเฟปกติเป็นเเก้วที่สูงขึ้นเเต่มีการใช้งานที่มากขึ้น
เเละทุกครั้งที่ผู้บริโภคถือเเก้วเราเเก้วนี้จะไม่สร้างขยะเเต่สร้างต้นไม้เเทน
- การออกแบบโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์มีความเป็นไปได้ในการผลิต และออกแบบให้ผู้บริโภคใช้งานได้สะดวก ง่าย และไม่ซับซ้อน
- เพราะเราเอาเเนวคิดจากเเก้วกระดาษเย็น 22 ออน มาเปลี่ยนเป็นเเก้วกาเเฟร้อนที่มีการใช้งานมากขึ้นเเละเพื่อการทำให้อายุการใช้งานของเเก้วเเละฝาเเก้วมีประโยชน์สูงสุด
ผู้บริโภคกลุ่ม Lazy Consumer นั้นยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับสินค้าหรือบริการต่างๆที่สามารถเพิ่มความสะดวกหรือความสบายให้กับเขาได้ โดยมีแนวคิดที่ว่า “เอาเวลาไปทำสิ่งที่สำคัญมากกว่านี้ดีกว่า” ก็ไม่แปลกเลยนะครับ ที่ธุรกิจหลายๆอย่างเติบโตขึ้นตาม Lazy Consumer
การที่ผู้คนสนใจสิ่งเเวดล้อมเเต่ก็ใช่ว่ามันจะง่ายดายเพราะผู้คนสนใจความสะดวกตนเองเป็นหลัก
ผู้คนส่วนใหญ่จะไปหาดินได้อย่างไรเนื่องการคนดื่มกาเเฟส่วนใหญ่อยู่ออฟฟิส
ผู้ดื่มการเเฟถ้าดื่มหมดเเล้วใครจะมาหาดินมาปลูกหากเราทำให้การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องง่ายเราจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ให้ผู้ดื่มกาเเฟได้เพื่อเปลี่ยนเป็นนิสัย
การที่เราเพิ่มการเก็บข้อมูลทำให้เรารู้ได้ว่าผู้บริโภคกาเเฟสร้างขยะจากเเก้วกาเเฟได้เท่าไร เเละเปลี่ยนเป็นต้นไม้เท่าไร เราต้องการเปลี่ยนผู้บริโภคให้เป็นผู้ผลิตธรรมชาติ
สามารถปลูกลงดินได้ เนื่องจากสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพอย่างสมบูรณ์ แทนที่จะสร้างขยะ
เพราะถ้าให้เราเก็บเเก้วกาเเฟมาปลูกที่บ้านเเละหาดินมาใส่ คิดเเค่ตัวเองเราก็เลือกที่จะทิ้งเเก้วกาเเฟลงถังขยะ
เเละคิดว่าการที่เรานำขยะลงถังก็พอเเล้ว
เราจึงต้องทำให้ผู้บริโภคที่ดื่มกาเเฟเสร็จก็ปลูกต้นไม้ได้ทันที ครบจบในเวลาอันสั้น
เเละที่สำคัญคือผู้บริโภคสามารถปลูกเเล้ววางไว้ที่ทำงานหรือห้องน้ำได้
ผู้บริโภคจะได้ทั้งกล่องเก็บของเล็กๆเเละกล้องดินสออีกด้วย
คิวอาร์โค้ดที่เรามีไว้เพื่อเพิ่มการใช้งานมากขึ้น
1.คิวอาร์โค้ดนี้เมื่อสเเกนจะเข้าไปพบกับฉลากสินค้าเพื่อลดการพิมพ์ เราสามารถเพิ่มAR เข้าไปได้
ฉลากคือหน้าตาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่อาจถูกจำกัดด้วยข้อความทำให้ยากต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ดังนั้น
การพัฒนาฉลากอัจฉริยะขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (augmented reality technology) จะเป็นประโยชน์ต่อตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์และเป็นการส่งเสริมการตัดสินใจของผู้บริโภค
2.คิวอาร์โค้ดนี้เมื่อสเเกนปลูกต้นไม้ได้โดยปลูกที่โลกจริงที่ออฟฟิสของเราเท่กกับผู้ในโลกเสมือน1ต้น
ทางบริษัทก็ได้ได้รับรู้ได้ว่ามีการใช้งานเเก้วกาเเฟเเละเปลี่ยนเป็นต้นไม้เท่าไร
ธุรกิจมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งในฐานะผู้สร้างผลกระทบและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่มักเป็นทรัพยากรที่มาจากธรรมชาติซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด แต่สวนทางกับความต้องการใช้ทรัพยากรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเมื่อวิเคราะห์ตามห่วงโซ่คุณค่าแล้ว จะเห็นว่าสิ่งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างมาก ตั้งแต่การผลิตสินค้าและบริการ การขนส่งหรือส่งมอบสินค้า การตลาดและการขายสู่ผู้บริโภค ไปจนถึงการใช้สินค้าและบริการของผู้บริโภคเองก็ล้วนเกี่ยวข้องกับ การใช้พลังงาน การใช้น้ำ การสร้างของเสียและมลพิษ รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ถ้าเราสามารถรับรู้ข้อมูลผู้บริโภคกาเเฟได้ว่าใช้เเก้วกาเเฟหลังจากนั้นทำอะไรเเละเราสามารถเก็บสถิติได้ว่าผู้คนปลูกต้นไม้ได้กี่ต้นต่อวันต่อปี ดีทั้งผู้บริโภคเเละผู้ผลิตเเละผู้บริโภคสามารถใกล้ชิดบริษัทได้มากขึ้นเเละให้คำเเนะนำให้การผลิต
เเละการออกเเบบที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น
เเก้วกาเเฟเรามีอะไรใหม่เเละเเตกต่าง
เเก้วกาเเฟร้อนที่สูงขึ้น(ทำจากกระดาษ)เเต่มีการใช้งาน หลายอย่าง
- เเก้วกาเเฟ
-ปลูกไมโครกรีน(พร้อมปลูกทันที)
-กล่องเก็บของเล็กๆ
-กล่องดินสอ
-คิวอาร์โค้ด ที่มีหลายอย่างในการใช้งาน
เริ่มที่เเก้วพลาสติก ใช้งานเเก้วกาเเฟเพืิ่อปิดเเก้วเเละสามารถใช้ปิดบริเวณข้างล่างเเก้วกาเเฟเพื่อเป็นที่เก็บของ
เเก้วน้ำจะเเบ่งเป็นส่วนที่ใช้เก็บกาเเฟเเละเก็บวัสดุปลูก microgreen
โดยใช้ฟิล์มละลายน้ำได้เป็นถุงเก็บดินเเละเมล็ด
ข้างล่างง่ายต่อการเจาะเพื่อนำวัสดุมาปลูก
ส่วกลางของเเก้วจะเเข็งเเรงที่สุดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
ผู้บริโภคสามารถถือเเก้วบริเวณข้างล่างเเก้วเพื่อป้องกันความร้อน
เเนวคิดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณธรรมชาติ