เวลาน้ำชา

     ประเทศไทยในปี2564จากผลสำรวจที่อ้างอิงตามแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่2 (พ.ศ.2545-2564)พบว่ามีผู้สูงอายุถึงร้อยละ19.6ของประชากรหรือประมาณ13,358,751คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวณที่ค่อนข้างมากและแน่นอนว่าในวัยของผู้สูงอายุมักจะให้ความสำคัญหรือใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของตนเป็นหลัก ทางทีมของผู้ออกแบบจึงหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพก่อนที่จะนำมาออกแบบเป็นบรรจุภัณฑ์ ทำให้ค้นพบว่าชาเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยลดอาการทางประสาทได้ เนื่องจากการรับรู้ต่างๆในผู้สูงวัยจะค่อยๆถดถอยลง สมองเองก็เช่นกันและตามมาด้วยอาการสมองเสื่อมแม้จะไม่มีวิธีช่วยบำรุงสมองได้อย่างแน่ชัดแต่ชามีส่วนช่วยในการลดอาการสมองเสื่อมได้ถึงร้อยละ50 ดังนั้นทางทีมออกแบบของเราจึงทำให้การชงชาเพื่อสุขภาพในยามว่างของคนในวัยชราสะดวกสบายขึ้น เนื่องด้วยผู้สูงวัยเองค่อยข้างที่จะมีปัญหาในเรื่องของนิ้วหรือข้อมือที่เสื่อมสภาพลงทำให้ยากต่อการบิดหรือหมุนสิ่งต่างๆจึงอาศัยอุ้งมือในการเปิดบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก นอกจากนี้ผู้สูงวัยส่วนมากที่มีกำลังทรัพย์เองก็ชอบในการเดินทางท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ทางทีมผู้ออกแบบจึงใช้ที่รองจับแก้วแบบมีรอยในแนวขวางเพื่อให้เกิดแรงเสียดทานไม่ล่วงตามแรงโน้มถ่วง และมือสามารถจับได้อย่างมั่นคง อีกทั้งยังใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์พลาสติกpolypropyleneแบบใช้แล้วทิ้งซึ่งสะดวกเหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว โดยอิงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของมือ พบว่าจากผลการสำรวจขนาดของอุ้งมือผู้สูงอายุส่วนมากผู้สูงอายุจะมีขนาดมือเฉลี่ยอยู่ราวๆ 6-7 เซนติเมตรดังนั้นที่จับรองร้อนจึงมีขนาดประมาณ7เซนติเมตร และตัวของบรรจุภัณฑ์สูงทั้งหมดราวๆ12 เซนติเมตร

- ซึ่งมีวิธีการใช้งานบรรจุภัณฑ์ ดังนี้

1.กดปุ่มบนฝาของบรรจุภัณฑ์ ตัวส่วนแหลมที่อยู่ภายในฝาจะดันแผ่นฟรอยด์จนขาดก่อนจะทำให้ตัวผงชาล่วงหล่นลงมา

2.ถอดส่วนฝาของบรรจุภัณฑ์ออกแล้วนำไปสวมที่ส่วนล่างของบรรจุภัณฑ์

3.เทน้ำร้อนใส่ในแก้วพลาสติก

4.จับที่ข้างฝารองร้อน

5.รอจนผงชาละลายหมดแล้วจึงดื่ม