คลีนนี่:)

Cleanie:)เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าที่ทำมาในรูปแบบบาล์ม และบรรจุอยู่ในรูปแบบแท่งที่สามารถหมุนขึ้นลงได้ 

สโลแกน : ปาดเดียวจบ ไร้สิ่งตกค้าง

1) การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ

1.1)การวิเคราะห์ตลาด : ตลาดเครื่องสำอางค์ของไทยมีอัตราที่จะมีมูลค่ากว่า3.23แสนล้านบาท ในปีพ.ศ.2573 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ5.0% โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงปีพ.ศ.2565 ประมาณ1.5เท่า จากการสำรวจและสังเกตกลยุทธ์ทางการตลาดหลังช่วงCOVID-19 และยังไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนที่ทำตัวคลีนซิ่งบาล์มเป็นแบบแท่ง จึงทำให้ผู้คนสนใจได้ง่ายยิ่งขึ้น

1.2)การวิเคราะห์ผู้บริโภค : พฤติกรรมการทำความสะอาดหน้าของคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยนั้น จะต้องการความสะดวกสบาย และพกพาง่ายเนื่องจากไม่สามารถพกของเหลวขึ้นเครื่องบินได้ จึงทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการตัวผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องใช้สำลีในการล้างทำความสะอาด,ไม่ใช่ของเหลว และพกพาสะดวก น้ำหนักเบา

2)การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์ 2.1)วิสัยทัศน์ : เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าที่สะดวกสบายต่อผู้บริโภคทุกเพศและต้องการพาแบรนด์ “Cleanie” ส่งออกไปยังต่างประเทศ

2.2)พันธกิจ : ด้านสิ่งแวดล้อม : พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างความตระหนักในการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านระบบRefillของผลิตภัณฑ์ และสามารถนำตัวบรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานหมดแล้วนำมาแลกเพื่อที่จะนำไปRecycleได้ ด้านสังคม : ส่งเสริมให้ผู้คนหันมาเริ่มดูแลใบหน้าของตนเองจากจุดเริ่มต้น(การล้างหน้า)

3.การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและรายละเอียดInsight

3.1)กลุ่มเป้าหมาย : คนที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศ หรือกลุ่มคนที่เดินทางบ่อยๆ กลุ่มคนที่อายุ15ปีขึ้นไป มีรายได้ปานกลางถึงสูง 3.2)ลักษณะทางจิตวิทยา : รักสิ่งแวดล้อมและชอบความสะดวกสบาย ไม่ชอบความยุ่งยาก และต้องการดูแลตนเอง

3.3)พฤติกรรม : ไม่สามารถพกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าแบบน้ำได้เนื่องจากขึ้นเครื่องบิน และมีความต้องการความสะดวกรวดเร็ว ชอบทดลองผลิตภัณฑ์แบบใหม่

3.4)Insight(ความต้องการเชิงลึก) : ผลิตภัณฑ์ที่ล้างสิ่งสกปรกหมดจด ผิวหน้าสดใสทุกวัน

4)การออกแบบบรรจุภัณฑ์

4.1)วัสดุ : ตัวแท่งและฝาของบรรจุภัณฑ์ทำมาจากพลาสติกrPET(Recycled PET)100%

4.2)การออกแบบภาพรวม : รูปทรงเรียบง่าย กระทัดรัด เพื่อให้พกพาสะดวก สีใช้เป็นสี Misty Mint ใช้พื้นผิวด้านเพื่อให้ผู้บริโภคจับตัวสินค้าถนัดมือ ไม่ลื่น

4.3)ฟังก์ชันการใช้งาน : ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อบาล์ม มีแกนหมุนเพื่อปรับระดับขึ้นลงได้ เพื่อความสะดวกและสามารถควบคุมปริมาณการใช้งานได้อย่างแม่นยำ มีระบบRefill ที่สามารถซื้อมาใส่เพิ่มเองได้ มีส่วนช่วยในการลดปริมาณขยะพลาสติก Reduce : ลดขยะจากตัวบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดคลีนซิ่งแบบน้ำ เป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย Reuse : ตัวบรรจุภัณฑ์สามารถใช้ซ้ำโดยการเติมRefillได้ Recycle : การออกแบบที่ทำให้แยกขยะได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยลดปัญหาขยะและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน และตัวแท่งบรรจุภัณฑ์สามารถนำกลับมาRecycle ใหม่ได้

4.4)ข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ : มีQR Codeที่เมื่อสแกนแล้วจะพบวิธีการใช้งาน,ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ และเอกสารรองรับมาตราฐานผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

5)กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์

5.1)การสร้างการรับรู้แบรนด์: แคมเปญโฆษณา”Let’s clean your face with us”ผ่านสื่อออนไลน์ บนTikTok,X และ Instagram

5.2)การส่งเสริมการขาย: แคมเปญ การจัดโปรโมชั่นและส่วนลด เพียงนำผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งบาล์มที่ใช้หมดแล้ว มาแลกส่วนลดกับทางแบรนด์5% โดยส่งตัวแท่งคลีนซิ่งมาทางไปรษณีย์ที่บริษัทremoveจำกัด31/2167 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120

5.3)การสร้างความภักดีต่อแบรนด์: มีระบบสมาชิกที่ให้สิทธิพิเศษแบบสะสมแต้มสำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ เช่น ซื้อรีฟิลคลีนซิ่ง1ครั้ง=1เเต้ม เมื่อครบ5แต้มจะสามารถแลกรับส่วนลดได้10%ต่อ1บิล

6)การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์

6.1)ตัวชี้วัดด้านยอดขาย: ติดตามยอดขายREMOVEเทียบกับยอดขายบาล์มปกติ

6.2)ตัวชี้วัดด้านการรับรู้แบรนด์: วิธีการวัด: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลมิเดียติดตามจำนวนไลค์,แชร์,คอมเมนต์

6.3)ตัวชี้วัดด้านความพึงพอใจ: ส่งแบบประเมินความพึงพอใจของลูกค้าต่อบริการหลังการขาย,แบบประเมินความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์หลังการใช้ เช่น ใช้แล้วมีอาการแพ้หรือไม่,อยากให้ปรับปรุงอะไรหรือไม่

6.4)ตัวชี้วัดด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: คำนวณจากยอดการรับคืนแท่งเปล่า