SCGP

ฮาตาริ เฮาส์

Idea Tank
Team : สสส

Member

Ms Kanyapat Suatuem

Ms Yadawan Sassadee

Ms Sirirat Thamchotika

ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ “Hatari”

วิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ

1. Strengths

-เป็นสินค้าประหยัดพลังงาน มีมาตรฐาน ได้รับการรองรับ

-สินค้ามีราคาถูกและมีคุณภาพ เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบการผลิตจากในประเทศไทย

-มีบริการหลังการขาย มีประกันการใช้งาน

-ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทำบรรจุภัณฑ์ ช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากการซื้อสินค้าของทางแบรนด์

-มีดีไซน์บรรจุภัณฑ์แปลกใหม่

-วัสดุเป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์

2. Weakness 

-มีข้อจำกัดเรื่องขนาดตัวของสัตว์เลี้ยงที่สามารถใช้งานสินค้าจากบรรจุภัณฑ์ได้

-เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ต้องมีน้ำหนักน้อยเพื่อการขนส่งทำให้เรื่องความแข็งแรงของสินค้าที่ทำจากบรรจุภัณฑ์อาจจะสู้คู่แข่งที่ขายสินค้าชนิดนี้โดยเฉพาะไม่ได้

-อายุการใช้งานของสินค้ามีระยะเวลามากทำให้ความถี่ในการซื้อสินค้าของลูกค้าน้อย

3. Opportunities

-ผู้คนใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เริ่มหันมาสนใจสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

-การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในสังคมปัจจุบันมีการเพิ่มมากขึ้น ทำให้สินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตสูง

-ในประเทศเมืองร้อนทำให้สินค้ามีความต้องการสูง

4. Threats 

-ผลิตภัณฑ์มีคู่แข่งจำนวนมาก ทำให้มีการแข่งขันสูงรวมถึงในสินค้าไม่ได้มีความแตกต่างกันมากในแต่ละแบรนด์

-ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบันทำให้กำลังซื้อของลูกค้าลดน้อยลง

-ในประเทศที่อากาศหนาว เช่น ยุโรป สินค้ามีความต้องการที่ต่ำมาก

เป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์

-เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ช่วยลดภาวะโลกร้อนแสดงความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานรวมถึงสัตว์เลี้ยง โดยการรีไซเคิลขยะจากบรรจุภัณฑ์ของสินค้ามาทำเป็นสิ่งของที่สามารถใช้งานได้จริงลูกค้าสามารถทำตามได้ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด

การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

และรายละเอียด insight ของกลุ่มเป้าหมาย

- ในปัจจุบันอัตราการเกิดนั้นต่ำลงในทุก ๆ ปี ซึ่งมีสาเหตุมาจากที่คนรุ่นใหม่คำนึงถึงผลที่ตามมาหลังจากการมีบุตรมากขึ้น อย่างเช่น ค่าเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม สภาพสังคม โรคภัย ฯลฯ จึงเป็นเหตุผลให้คนรุ่นหลังสนใจที่จะเลี้ยงสุนัข, แมว และสัตว์อื่นๆเป็นสมาชิกในครอบครัว

- กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนรุ่น Gen Z ที่มีความสนใจในการมีลูกลดน้อยลงโดยหันมาเลี้ยงสุนัขหรือแมวเปรียบเสมือนบุตรในครอบครัว

- ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เนื่องจากมีอายุที่สั้นกว่ามนุษย์ และยังไม่ต้องมีในส่วนของค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษาระยะยาว และอื่น 

- Insight กลุ่มคนที่อยากมีครอบครัวแต่ไม่พร้อมถึงขั้นเลี้ยงดูแลเด็ก, กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงา และบำบัดเยียวยาจิตใจ

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

- การออกแบบ โดยปกติแล้วกล่องที่บรรจุพัดลมไว้ จะใช้โฟมเป็นตัวกันกระแทก ซึ่งตัวโฟมนั้นก็เป็นขยะชิ้นหนึ่งที่ย่อยสลายยากเช่นกัน ทางเราจึงออกแบบกล่องของผลิตภัณฑ์ให้มาโครงสร้างภายในมีส่วนยื่นออกมาจากกล่องให้ครอบพอดีกับสัดส่วนของพัดลมเพื่อกันการกระแท็ก และส่วนที่ยื่นเพิ่มเติมมาในกล่องนั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างบ้านสัตว์เลี้ยง

- กล่องผลิตภัณฑ์ของเรานั้นจะมีหลายแบบ เนื่องจากในยุคปัจจุบันผู้คนนิยมซื้อของที่เราไม่สามารถเลือกรูปแบบได้หรือที่เรียกกันว่า กล่องสุ่ม ทางเราจึงนำไอเดียมาทำให้ลักษณะของบ้านสัตว์เลี้ยงในแต่ละกล่องนั้นจะประกอบออกมาไม่เหมือนกัน

กิจกรรมทางการตลาด

และการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์

1. การรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ ผ่านช่องทาง TikTok โดยเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ทำคอนเทนท์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ที่เป็นสุนัขและแมว เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของบรรจุภัณฑ์นี้คือคนที่มีสัตว์เลี้ยง ดังนี้

  1. TikTok: @cielmeowmun (ชิเอลแมวมึน) 

เป็นช่องที่ได้รับความนิยม เกี่ยวกับคอนเทนท์สัตว์เลี้ยง จุดเด่นของช่องคือการที่เจ้าของแมว “คุณซิน” ได้พากษ์เสียงแทนคำพูดของแมว ลงไปในคลิปวิดีโอ มีการสวมบทบาทระหว่างชิเอลและคิรัวร์ ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีคอนเทนท์ที่หลากหลาย เช่น การทัวร์บ้านของชิเอล การพาไปตรวจสุขภาพ เป็นต้น โดยช่องนี้มีผู้ติดตามอยู่ที่ 5.2 ล้านคน

  1. TikTok: @ployy_chuek (ployy_chuek) 

เป็นช่องที่เสนอเรื่องราวของแมวจรจัดที่ชื่อว่า “ไข่ขาว” ซึ่งเจ้าของช่อง “คุณพลอย” ได้รับเลี้ยงไว้ โดยเนื้อหาของช่องในช่วงเริ่มต้นเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของไข่ขาวที่คุณพลอยเจอก่อนที่จะรับมาเลี้ยง จุดเด่นของช่องอยู่ที่การพากษ์เสียงและการเล่าเรื่องราวของไข่ขาว โดยช่องนี้มีผู้ติดตามอยู่ที่ 5.5 ล้านคน 

  1. TikTok: @staywithnoppo (staywithnoppo) 

เป็นช่องที่เน้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสุนัขที่ชื่อ “นบโปะ” ซึ่งเป็นที่มาของเพลง “นปโปะ หม่ำ หม่ำ” ที่ใช้เวลานปโปะกินอาหาร ทำให้คลิปดูสนุก สร้างความอบอุ่นและดูเป็นกันเองในคลิป ซึ่งเป็นจุดเด่นของช่องนี้ โดยช่องนี้มีผู้ติดตามอยู่ที่ 2.48 แสนคน

  1. TikTok: @japanfriends (Japan and friend) 

เป็นช่องที่ได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มที่ชอบสัตว์เลี้ยง โดยสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ “จุ๊มเหม่ง” เนื้อหาช่องนี้จะเน้นไปที่การเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันของสุนัขในบ้าน โดยนอกจากจุ๊มเหม่งแล้ว ยังมีสุนัขตัวอื่นที่อยู่ร่วมกันด้วย คือ เจได และใจดี แสดงถึงความสัมพันธ์ที่อบอุ่นระหว่างสุนัข จุดเด่นของช่องอยู่ที่การพากษ์เสียงและการเล่าเรื่องที่เป็นกันเอง โดยช่องนี้มีผู้ติดตามอยู่ที่ 4.1 ล้านคน

  1. TikTok: @glutastory (Gluta Story) 

เป็นช่องที่ได้รับความนิยมในกลุ่มที่รักสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข เนื้อหาหลักคือการเล่าเรื่องราวของสุนัขที่เคยเป็นสุนัขจรจัด และได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าของช่อง “คุณยอร์ช และคุณส้ม” นอกจากนี้ยังส่งเสริมการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ และการช่วยเหลือสัตว์จรจัดอีกด้วย โดยช่องนี้มีผู้ติดตามอยู่ที่ 2.1 ล้านคน 

โดยงบประมาณที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 90,000 - 300,000 บาทต่อช่อง ยกเว้นช่อง staywithnoppo จะใช้งบประมาณ 30,000 – 100,000 บาท อ้างอิงจากยอดผู้ติดตาม คิดตามเว็บไซต์ https://www.brandage.com/article/37732

2. การประชาสัมพันธ์เรื่องการบริจาค ผ่านกิจกรรม “ซื้อ 1 ชิ้น เท่ากับบริจาค 5 บาท”

ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ของสินค้า และบรรจุภัณฑ์ เกี่ยวกับกิจกรรมซื้อ 1 ชิ้นบริจาค 5 บาท โดยจะบริจาคให้ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (soidog) ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อมุ่งเน้นและส่งเสริมสวัสดิภาพของสุนัขและแมวจรจัดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย โดยเป้าหมายเพื่อให้สัตว์จรจัด และคนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่สังคมที่ปราศจากสัตว์จรจัด โดยช่วยเหลือสัตว์ที่ป่วย บาดเจ็บ พิการ รวมไปถึงให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร เวชภัณฑ์ การทำหมัน การฉีดวัคซีน เป็นสถานพักพิงที่ปลอดภัย และต่อสู้เพื่อยุติการธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขในหลายประเทศในเอเชีย นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ให้การศึกษาเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ในโรงเรียนของชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีทัศนคติและปฏิบัติต่อสุนัขและแมวจรจัดในทางที่ดี นำไปสู่การสร้างสังคมที่น่าอยู่สำหรับสัตว์และทุกคนในชุมชน

(source: https://www.soidog.org/)

3. การสร้างภาพลักษณ์ให้ดูเป็นแบรนด์รักษ์โลก และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

สร้างภาพลักษณ์ผ่านบรรจุภัณฑ์ โดยสามารถนำบรรจุภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์ต่อได้ และเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งขั้นตอนการผลิตและขั้นตอนการย่อยสลาย) รวมถึงนำเสนอวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน เพื่อให้คนทั่วไปทราบถึงผลกระทบของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม 

การวัดผลทางการตลาด

1. การรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ ผ่านช่องทาง TikTok 

วัดผลด้วยการ ประมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นจาก 5% ของยอดการรับชมเฉลี่ย

  1. ช่องทาง TikTok: @cielmeowmun (ชิเอลแมวมึน) มีผู้ติดตามอยู่ที่ 5.2 ล้านคน มียอดการรับชมเฉลี่ยต่อคลิป ประมาณ 3 แสนครั้ง คิดจากยอดการรับชมผ่าน TikTok จะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นประมาณ 15,000 ชิ้น
  1. ช่องทาง TikTok: @ployy_chuek (ployy_chuek) มีผู้ติดตามอยู่ที่ 5.5 ล้านคน มียอดการรับชมเฉลี่ยต่อคลิป ประมาณ 2 ล้านครั้ง คิดจากยอดการรับชมผ่าน TikTok จะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 ชิ้น
  1. ช่องทาง TikTok: @staywithnoppo (staywithnoppo) มีผู้ติดตามอยู่ที่ 2.48 แสนคน มียอดการรับชมเฉลี่ยต่อคลิปประมาณ 1.5 แสนครั้ง คิดจากยอดการรับชมผ่าน TikTok จะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นประมาณ 7,500 ชิ้น
  1. ช่องทาง TikTok: @japanfriends (Japan and friend) มีผู้ติดตามอยู่ที่ 4.1 ล้านคน มียอดการรับชมเฉลี่ยต่อคลิป ประมาณ 1 ล้านครั้ง คิดจากยอดการรับชมจะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50,000 ชิ้น
  1. ช่องทาง TikTok: @glutastory (Gluta Story) มีผู้ติดตามอยู่ที่ 2.1 ล้านคน มียอดการรับชมเฉลี่ยต่อคลิป ประมาณ 1.2 ล้านครั้ง คิดจากยอดการรับชมจะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 ชิ้น

2. การประชาสัมพันธ์เรื่องการบริจาค ผ่านกิจกรรม “ซื้อ 1 ชิ้น เท่ากับบริจาค 5 บาท”

เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วการบริจาคนั้นผู้คนมองว่าเป็นการช่วยเหลือสังคม และทำให้คนรู้สึกดีขึ้นซึ่งเป็นพื้นฐานของมนุษย์ ดังนั้นคนจึงอาจเลือกสินค้าที่ได้บริจาค มากกว่าสินค้าทั่วไป

3. การสร้างภาพลักษณ์ให้ดูเป็นแบรนด์รักษ์โลก และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากเทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อม เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มคนยุคใหม่ และกลุ่มนี้ได้ตระหนักถึงผลกระทบของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มาจากการบริโภคสินค้ามากขึ้น ทำให้มีความคาดหวังว่าแบรนด์จะมีการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อความยั่งยืน และลดปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงพร้อมที่จะสนับสนุนสินค้ารักษ์โลกมากขึ้น ดังนั้นการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

other Ideas