กล่องนมหรรษาพาแยกขยะ

Team : สตอร์เบอรี่มรกต
Member
Ms Thussanee Manomai
Ms Rattanakorn Ketpimon
Ms Nantiya Salad
1.) ผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์นมกล่องยูเอชทีสำหรับเด็ก ภายใต้แบรนด์ Remilky ได้ออกแบบกล่องนมสำหรับเด็กเป็นคในรูปแบบสีของประเภทถังขยะทั้ง4ประเภท ได้แก่ สีแดง(ขยะอันตราย), สีเขียว(ขยะเปียก), สีเหลือง(ขยะรีไซเคิล) และสีน้ำเงิน(ขยะทั่วไป) ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสีที่สดใสเหมาะสมกับวัยเด็ก เพื่อเป็นการนำกล่องนมมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และได้ออกแบบภายในตัวกล่องสำหรับแพ็คนมทั้ง4กล่องเป็นคำศัพท์ขยะที่มีทั้งหมด 20 คำ สามารถนำมาตัดเป็นใบคำศัพท์ขยะเล็กๆ แล้วนำมาใส่ในถังขยะแต่ละสี เพื่อเป็นการแยกขยะ และจะมีคิวอาร์โค้ดเฉลยข้างกล่องนมว่าถังขยะแต่ละสี มีขยะชิ้นไหนบ้างพร้อมเกร็ดความรู้เล็กน้อย ซึ่งทางแบรนด์ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์นี้โดยคำนึงถึงปัญหาขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ถูกทิ้งไปอย่างผิดวิธี ทำให้สูญเสียวัสดุที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจและสับสนการแยกขยะของถังแต่ละสี และคำนึงถึงสื่อการเรียนสำหรับเด็ก
2.) แบรนด์ Remilky
Remilky คือชื่อที่แสดงถึงการนำสิ่งที่เป็นกล่องนมกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) ให้มีการจดจำที่ง่ายและมีจังหวะการออกเสียงที่สนุกสนาน
3.) Pain Point
· กล่องนมในปัจจุบันมีหลายชั้นหรือผสมวัสดุหลากหลาย (กระดาษ อลูมิเนียมฟอยด์ พลาสติก) ทำให้การแยกขยะเพื่อรีไซเคิลทำได้ยาก ผู้บริโภคไม่แน่ใจว่าจะทิ้งหรือรีไซเคิลอย่างไร
· ผู้บริโภคจำนวนมากอาจไม่มีแรงจูงใจในการรีไซเคิลกล่องนม เนื่องจากไม่มีระบบรีไซเคิลที่เข้าถึงง่ายหรือการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ต้องใช้ความพยายามมาก
· ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจและสับสนเรื่องการแยกขยะตามประเภทต่างๆ ทำให้การจัดการขยะเป็นไปได้ยากและประสิทธิภาพต่ำ และทำให้สูญเสียวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้
4.) การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ
ทางแบรนด์ได้มีการวิเคราะห์ SWOT Analysis โดยมีดังนี้
4.1) Strengths
การออกแบบนวัตกรรม
· แนวคิดที่ไม่เหมือนใครในการเปลี่ยนกล่องนมให้เป็นถังขยะ เป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ปกครองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและทำให้เด็ก ๆ สนุกสนาน
· รวมการใช้งานเข้ากับการศึกษา สอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับการแยกขยะตั้งแต่อายุยังน้อย
การสร้างความแตกต่างในตลาด
· ผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในตลาด แตกต่างจากบรรจุภัณฑ์นมแบบดั้งเดิม
· มีโอกาสดึงดูดความสนใจจากสื่อและผู้บริโภค เนื่องจากความแปลกใหม่และการเน้นความยั่งยืน
คุณค่าทางการศึกษา
· กระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและการทิ้งขยะอย่างถูกวิธีในเด็ก ๆ
· ผู้ปกครองมักจะชื่นชอบและสนับสนุนด้านการศึกษา ทำให้มีความภักดีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้น
4.2) Weaknesses
การตอบสนองของตลาด
· ความไม่คุ้นเคยของผู้บริโภคกับการรีไซเคิลที่ซับซ้อนอาจทำให้การยอมรับของตลาดเป็นไปได้ช้า
ค่าใช้จ่ายในการผลิต
· การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถ reuse ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้กระบวนการผลิตซับซ้อนขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไป
4.3) Opportunities
แนวโน้มการตลาด
· การตระหนักรู้เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและการรีไซเคิลกำลังเพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
การสนับสนุนจากรัฐบาล
· โครงการหรือการสนับสนุนจากรัฐบาลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสามารถเพิ่มโอกาสในตลาดได้
การร่วมมือกับโรงเรียน
· ร่วมมือกับโรงเรียนหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการศึกษาการแยกขยะ
4.4) Threats
การแข่งขันในตลาด
· แบรนด์ขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรมากกว่า อาจเลียนแบบแนวคิดหรือออกผลิตภัณฑ์ที่เน้นความยั่งยืนได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้สูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน
5.) เป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์
· การปลูกฝังพฤติกรรมการแยกขยะ เป้าหมายหลักของแบรนด์คือการสร้างการรับรู้และการปฏิบัติในการแยกขยะอย่างถูกวิธีตั้งแต่อายุยังน้อย
· การส่งเสริมการรีไซเคิล ทางแบรนด์ส่งเสริมให้เด็กใช้กล่องนมที่หมดแล้วเพื่อการเล่นและการเรียนรู้เรื่องการรีไซเคิล
6.) กลุ่มเป้าหมาย
· โรงเรียนอนุบาลและศูนย์เด็กเล็ก
Insight โรงเรียนอนุบาลและศูนย์เด็กเล็กมีความต้องการเครื่องมือหรือสื่อการเรียนการสอนที่สร้างสรรค์ ประหยัดค่าใช้จ่าย และสอดคล้องกับการพัฒนาเด็ก ซึ่งกล่องนมเป็นสิ่งที่ทุกโรงเรียนจำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว หากสามารถทำเป็นของเล่นได้ จะเป็นสื่อการสอนที่ทำให้การเรียนรู้เรื่องการแยกขยะเป็นเรื่องสนุก และเป็นกิจกรรมที่สามารถทำในชั้นเรียนได้
· กลุ่มพ่อแม่ที่มีบุตรหลานในวัยเด็กเล็ก (อายุ 3-8 ปี)
Insight คนกลุ่มนี้มีความต้องการที่จะมอบของเล่นที่ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของลูก
7.) กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์
· ออกบูธตามสถานที่เพื่อให้ความรู้และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก
· ทำคลิปวิดีโอสอนแยกขยะ และให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษ์โลก ผ่านทางโซเชียลมีเดีย
· มีการนำผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ Tie in เข้าไปในการ์ตูน เพลง และสื่ออื่นๆเพื่อให้ผู้บริโภคคุ้นตาและจดจำแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์
8.) การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์
· การสำรวจความคิดเห็น ตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ปกครองและเด็กเกี่ยวกับการออกแบบและประโยชน์ของกล่องนมผ่านทางโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์
· การติดตามยอดขาย วิเคราะห์ยอดขายและการรับรู้ของแบรนด์เพื่อประเมินผลกระทบของกล่องนมที่ออกแบบใหม่
· การวิเคราะห์การมีส่วนร่วม ติดตามการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในกิจกรรมการตลาดและแคมเปญออนไลน์