StackStep

Team : StackStep
Member
Ms Methaporn Somnuek
Ms Ananya Naulngam
Ms Darunrat Saenkam
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ธุรกิจรองเท้าเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลและเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับรองเท้าไม่เพียงแค่ในแง่ของฟังก์ชันการใช้งาน แต่ยังรวมถึงแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ด้วย ส่งผลให้ตลาดรองเท้ามีการแข่งขันสูงและมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการเติบโตนี้ ยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ถูกมองข้ามไป นั่นก็คือปัญหาจากกล่องรองเท้า
แม้ว่ากล่องรองเท้าส่วนใหญ่จะผลิตจากกระดาษแข็ง ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ แต่ในความเป็นจริง กล่องเหล่านี้มักไม่ถูกนำไปใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากที่ผู้บริโภคแกะรองเท้าออกจากกล่อง กล่องมักจะถูกทิ้งและกลายเป็นขยะในทันที นอกจากนี้ กล่องเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบให้สะดวกในการจัดเก็บหรือซ้อนกันง่าย ทำให้ผู้บริโภคหลายคนต้องเสียเงินซื้อชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติม หรือปล่อยให้รองเท้าวางกระจัดกระจายบนพื้น ซึ่งไม่เพียงทำให้ยุ่งยาก แต่ยังสิ้นเปลืองทรัพยากร
แบรนด์ของเราจึงออกแบบกล่องรองเท้ามาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยนอกจากจะผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถซ้อนกันได้อย่างสวยงาม ประหยัดพื้นที่ และสะดวกต่อการหยิบจับรองเท้ามาใช้งาน ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บและสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ กล่องของเรายังมีหูหิ้วที่ช่วยลดการใช้ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกในการพกพาเพิ่มเติม ลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนของผู้บริโภคยุคใหม่
SWOT Analysis
จุดแข็ง (Strengths)
- ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : แบรนด์ของเรามีจุดเด่นในเรื่องการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้หรือรีไซเคิลได้ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลก
- การออกแบบกล่องรองเท้าที่โดดเด่น : กล่องของเราถูกออกแบบมาให้สามารถเปลี่ยนเป็นชั้นวางรองเท้าได้ สามารถพับและประกอบได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม ในขณะที่ก็ยังคงเป็นกล่องรองเท้าที่สามารถหิ้วและพกพาได้
- ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค : ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและต้องการสินค้าที่มีดีไซน์สวยงามและใช้งานได้จริง
จุดอ่อน (Weaknesses)
- การรับรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับการใช้ซ้ำยังไม่เพียงพอ : แม้กล่องของเราจะถูกออกแบบให้ใช้ซ้ำหรือจัดเก็บได้ดี แต่ผู้บริโภคบางกลุ่มอาจไม่เห็นคุณค่าในจุดนี้และยังคงทิ้งกล่องไปหลังจากการใช้งานครั้งแรก ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ตามที่ตั้งใจ
- การออกแบบอาจไม่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคทั้งหมด : แม้ว่ากล่องของเราจะเน้นเรื่องความสะดวกสบายและการจัดเก็บ แต่กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับแฟชั่นและความหรูหราอาจไม่ได้สนใจฟังก์ชันการใช้งานนี้ และมองว่าการออกแบบเน้นไปที่ความเรียบง่ายมากเกินไป
โอกาส (Opportunities)
- การเติบโตของตลาดสีเขียว : ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
- การเติบโตของตลาดรองเท้า : การเติบโตของอุตสาหกรรมรองเท้าเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจ
- การขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ : การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
อุปสรรค (Threats)
- การแข่งขันสูง : อุตสาหกรรมรองเท้ามีการแข่งขันที่สูงทั้งในด้านราคา คุณภาพ และนวัตกรรม ทำให้แบรนด์ต้องเร่งปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
- การควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น : กฎระเบียบและข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดในอนาคตอาจทำให้แบรนด์รองเท้าต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านการลดของเสียและการจัดการทรัพยากร
กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์
เราเชื่อว่าการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อโลก แต่ยังส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านการตัดสินใจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทุกย่างก้าวของเราในการออกแบบกล่องรองเท้าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อโลกใบนี้และสังคมรอบตัวเรา โดยมีวิสัยทัศน์ คือ ทุกก้าวของการเดินทางกับ StackStep จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีและยั่งยืน ไม่เพียงเพื่อตัวคุณ แต่เพื่อโลกใบนี้
กำหนดกลุ่มเป้าหมายและรายละเอียด insight ของกลุ่มเป้าหมาย
Gen Z คือ กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับกระแสรักษ์โลกและความยั่งยืนเป็นอย่างมาก จากการวิจัยพบว่า กว่า 54% ของคน Gen Z เต็มใจที่จะจ่ายแพงขึ้นอีก 10% หรือมากกว่านั้นเพื่อสินค้าที่เขารู้สึกว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากสถิติทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่านี่คืออีกหนึ่งกลุ่มผู้บริโภคศักยภาพสูง ที่มีโอกาสช่วยเพิ่มยอดขาย สนับสนุนธุรกิจให้เติบโตไปได้อีกไกล ตัวเลือกที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสนใจอยากใช้สูงที่สุด ได้แก่ สินค้าและบริการแนว “3R” ซึ่งประกอบด้วย สินค้าที่ลดการสร้างขยะและนำกลับไปรีไซเคิลได้แบบ 100% (Recyclable) สินค้าแนวรีฟิล ที่ให้นำบรรจุภัณฑ์มาเอง (Refillable) และระบบรียูสแพ็กเกจจิ้งสินค้าที่ใช้หมดแล้ว แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reuseable) อีกทั้งคนกลุ่มนี้ยังให้ความสำคัญกับรสนิยม “สุนทรียะต้องมาก่อน” สินค้าหรือแบรนด์ที่พวกเขาจะสนใจ จะต้องมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ มีการสร้างแบรนด์และเรื่องราวของแบรนด์ (Brand Storytelling) รูปแบบการสื่อสาร (Mood & Tone) บุคลิกของแบรนด์ (Brand Character) ที่สื่อสารไปในทางเดียวกัน และอาจนำเสนอสินค้าที่มีเรื่องราวจากคนธรรมดา ไม่จำเป็นต้องใช้คนมีชื่อเสียงในการประชาสัมพันธ์แบรนด์
การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ
แนวคิดในการเปลี่ยนกล่องรองเท้าจากบรรจุภัณฑ์ธรรมดามาเป็นกล่องที่สามารถซ้อนกันและใช้เป็นชั้นวางรองเท้าได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์มากขึ้นจากบรรจุภัณฑ์เดียว โดยมีหลักในการออกแบบดังนี้
การออกแบบกล่องรองเท้านี้เน้นความสะดวกในการใช้งานและการจัดเก็บที่ประหยัดพื้นที่ โดยฝาหน้าของกล่องถูกออกแบบให้มีหูหิ้วเพื่อให้สามารถเปิด-ปิดได้ง่าย ช่วยในการเคลื่อนย้ายได้สะดวก และที่สำคัญคือทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงพลาสติกหรือถุงกระดาษเมื่อซื้อรองเท้า ส่วนฐานของกล่องมีการออกแบบให้มีส่วนที่ยื่นออกมา ซึ่งสามารถใช้ในการเชื่อมต่อกับอีกกล่องเมื่อวางซ้อนกัน ทำให้กล่องสามารถวางซ้อนกันได้อย่างมั่นคงและกลายเป็นชั้นวางรองเท้าได้ ทำให้เกิดการนำกลับมาใช้ในลักษณะใหม่ ช่วยลดการใช้พื้นที่ในการจัดเก็บ และทำให้การจัดวางรองเท้าเป็นระเบียบมากขึ้นโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อชั้นวางรองเท้า
กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์
กิจกรรมที่ 1 ทำ Brand Storytelling ผ่านการทำโฆษณา โดยเผยแพร่ผ่านช่องทาง Youtube, Facebook, Instragram และ Tiktok เพื่อเล่าเรื่องราวของ StackStep แบรนด์รองเท้าที่เป็นมากกว่าแค่รองเท้า เพื่อสร้าง Brand Awarness โดยมีรายละเอียดของเนื้อหาโฆษณา ดังนี้
โดย StackStep จะถูกเปรียบเสมือนคนที่มีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เต็มไปด้วยความหมาย โฆษณาเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครหลักที่สวมใส่และถือกล่องรองเท้า StackStep แสดงถึงแบรนด์ที่เป็นส่วนหนึ่งของทุกย่างก้าวของผู้ใช้ เช่น การช่วยคนแก่ข้ามถนน ช่วยเด็กเก็บลูกโป่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า StackStep ไม่ใช่แค่แบรนด์รองเท้า แต่เป็นพลังขับเคลื่อนให้ผู้สวมใส่มีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีทุกย่างก้าวของลูกค้า StackStep เปรียบเสมือนการทำดีเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
กิจกรรมที่ 2 แคมเปญ “ StepForThePlanet” ผ่านโซเชียลมีเดียโดยเน้นไปที่แพลตฟอร์ม TikTok และ X (Twitter) เป็นหลัก
- ใช้แฮชแท็ก อย่างเช่น #StepForThePlanet #StackStep เพื่อให้ลูกค้าร่วมแบ่งปันภาพการใช้กล่อง StackStep เป็นชั้นวางรองเท้าในบ้านของตนเอง และให้ส่วนลดสำหรับซื้อรองเท้าคู่ใหม่จาก StackStep สำหรับลูกค้าที่มียอด Engage มากที่สุด
- สร้างกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ลูกค้านำกล่องรองเท้าเก่าเพื่อนำไปรีไซเคิลมาแลกรับส่วนลดสำหรับซื้อรองเท้าคู่ใหม่จาก StackStep
การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์
กิจกรรมที่ 1 วัดผลทางการตลาดด้วย จำนวนผู้เข้าชม โดยวัดจำนวนครั้งที่โฆษณาถูกดูหรือเข้าชมบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น YouTube, Facebook, Instagram, และ TikTok โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ของแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น YouTube Analytics, Facebook Insights, Instagram Insights, และ TikTok Analytics วัดจำนวนผู้ Click link จากจำนวนคลิกที่โฆษณานำไปสู่เว็บไซต์หรือหน้าข้อมูลเพิ่มเติมของแบรนด์ และวัดจำนวนผู้ที่กดสั่งซื้อสินค้าที่เกิดขึ้นหลังจากที่โฆษณาได้ถูกปล่อย
กิจกรรมที่ 2 วัดผลทางการตลาดด้วย จำนวนยอดแฮชแท็ก โดยวัดจำนวนครั้งที่แฮชแท็ก เช่น #StepForThePlanet และ #StackStep ถูกใช้ในโพสต์ของผู้ใช้ ใช้เครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลมีเดียที่ติดตามการใช้แฮชแท็ก เช่น Hootsuite, Sprout Social, หรือ TweetDeck วัดจำนวนผู้เข้าชม โดยวัดจำนวนการมีส่วนร่วมรวมถึงการกดไลค์ คอมเมนต์ และแชร์โพสต์ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ วัดจำนวนผู้ที่ Click link และจำนวนผู้ที่กดสั่งซื้อที่เกิดจากการมีส่วนร่วมในแคมเปญ เช่น การแลกส่วนลดสำหรับกิจกรรมการนำกล่องรองเท้าเก่ามาแลกเพื่อนำไปรีไซเคิล