SCGP

Crispy ขนมกระป๋อง

Idea Tank
Team : My Little Pony

Member

Ms Pitchayaporn Caeteaw

Ms Kanyarat Pinakase

Ms Thitakan Mungfakklang

Brand: Crispy 

Product: ขนมอบกรอบรูปวง ในรูปแบบกระป๋อง

1.การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ 

ตลาดขนมขบเคี้ยวทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่ม ขนมซอง (bagged snacks) ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการขยายตัวของ บริการสตรีมมิ่งออนไลน์ คนรุ่นใหม่เลือกบริโภคสื่อบันเทิงจากบ้านมากขึ้น ทำให้ขนมขบเคี้ยวที่ให้ความสะดวกและเพลิดเพลินระหว่างการรับชมสื่อกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

ในประเทศไทย ตลาดขนมขบเคี้ยวมีมูลค่าสูงมาก โดยในปี 2566 มูลค่าตลาดค้าปลีกขนมขบเคี้ยว อยู่ที่ 105,200.7 ล้านบาท และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจในผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงดีต่อสุขภาพ แต่ยังมุ่งเน้นเรื่อง ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ตามเทรนด์ของตลาดโลกที่หันมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ไร้สารเติมแต่ง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จาก งานวิจัยของ Trivium Packaging พบว่า 74% ของผู้บริโภค มองหา บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Packaging) และเต็มใจจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นอันตราย เช่น พลาสติกที่ก่อให้เกิดมลพิษ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พวกเขายินดีลงทุนในแบรนด์ที่สะท้อนถึงค่านิยมด้านความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ ผลสำรวจจาก Nielsen พบว่า Gen Z เต็มใจที่จะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์ที่แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ผลสำรวจในประเทศไทยยังชี้ให้เห็นว่า คนไทยนิยมบริโภค ขนมกรุบกรอบ และ เครื่องดื่มแทนอาหารมื้อหลัก เป็นอันดับสองในเอเชียแปซิฟิก รองจากอินเดีย โดยมีปัจจัยสำคัญมาจาก ความเครียดและความเร่งรีบ ที่ผู้บริโภคเผชิญในชีวิตประจำวัน คนไทยมักรับประทานขนมกรุบกรอบในช่วง 'we-time' หรือช่วงเวลาทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น (54%) และ 'me-time' ในช่วงที่รู้สึกเครียดหรือเบื่อ (45%)

อย่างไรก็ตาม ขนมกรุบกรอบแบบดั้งเดิมที่มีสารปรุงแต่งไม่ตอบสนองความความต้องการของผู้บริโภคที่มองหา อาหารเพื่อสุขภาพ ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก วัตถุดิบธรรมชาติ ปราศจากสารเติมแต่ง วัตถุกันเสีย และสารก่อภูมิแพ้เพิ่มขึ้น 19% และขนมขบเคี้ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น 17% ในขณะที่ขนมที่มีปริมาณโซเดียมสูงกลับลดลง 11%

พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้เห็นว่าผู้บริโภคยุคใหม่ไม่เพียงมองหาขนมที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับ ประโยชน์ทางโภชนาการ ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ขณะที่ยังคง รสชาติที่ดี การปรับตัวในทิศทางนี้จะช่วยให้ขนมขบเคี้ยวกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพในอนาคต

PESTEL Analysis

 Political 

  1. รัฐบาลขับเคลื่อนการส่งเสริม SME ภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริม SME ปี 2567 รวมกว่า 100 โครงการ ด้วยเป้าหมายหลักคือการเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SME เป็น 37% ภายในปี 2567 ส่งผลให้หลาย ๆ ธุรกิจมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น  +
  1. รัฐบาลส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ภาคการผลิตขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้หลาย ๆ ธุรกิจหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจะสามารถเติบโตและขยายตัวได้อย่างยั่งยืน  +
  1. รัฐบาลส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Design for Environment : DfE) ให้สามารถใช้ซ้ำและรีไซเคิลได้ง่าย

            ส่งผลให้หลาย ๆ ธุรกิจหันมาออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น +

Economic

  1. อุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวเติบโตต่อเนื่องทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดเอเชียและไทย ซึ่งมีมูลค่ารวม 105,200.7 ล้านบาทในปี 2566 ส่งผลต่อรายได้ของธุรกิจที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามและทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว +

Social 

  1. ผลสำรวจ Euromonitor*  พบว่าคนไทย 1 ใน 4 กำลังควบคุมอาหาร 65% ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น และ 41% ใส่ใจในเรื่องฉลากโภชนาการบนสินค้า เมื่อจะซื้อสินค้าหรือบริการ ผู้บริโภค 65% รู้สึกว่าสามารถสร้างความแตกต่างให้กับโลกด้วยทางเลือกและพฤติกรรมของพวกเขาได้ ส่งผลให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องหันมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น +
  1. ผู้บริโภครักษ์โลกชาวไทย 74% เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม

มหาวิทยาลัยมหิดล (CCMU) ได้วิจัยการตลาดเกี่ยวกับ Voice of Green พบว่า ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกใช้สินค้าและพร้อมปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีต่อสิ่งแวดล้อม และพร้อมจ่ายเงินให้สินค้าหรือบริการนั้น ส่งผลให้หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มหันมาทำผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค +

  1. เทรนด์ผู้บริโภค เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีตัวเร่งอย่าง เทคโนโลยี ความยั่งยืนและ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ของยุคสมัยเข้ามาเกี่ยวพัน ส่งผลให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องขยันปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค  -
  1. 76% ของผู้บริโภคไทยมีพฤติกรรมรับประทานขนมกรุบกรอบระหว่างทำงาน ระหว่างเดินทางท่องเที่ยว หรือระหว่างกิจกรรมยามว่างอื่นๆ หรือที่เรียกว่า “ภาวะเคี้ยวไปเรื่อย” เป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำ ส่งผลให้ธุรกิจขนมขบเคี้ยวมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น +
  1. งานวิจัยของ Trivium Packaging พบว่า 74% ของผู้บริโภค มองหา บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Packaging) และเต็มใจจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นอันตราย ส่งผลให้หลายธุรกิจ ๆ เริ่มสื่อสารผ่านทางภาพลักษณ์ของธุรกิจให้ผู้บริโภคเห็นว่าธุรกิจสอดคล้องกับความสนใจของพวกเขาอย่างไร +
  1. แพลตฟอร์ม Social Media ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยที่เหล่า Gen Z มีการใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน คือ Facebook และ Youtube ที่มากถึง 94% และแพลตฟอร์มที่มาแรงที่สุดในปีนี้คือ TikTok และ Instagram ซึ่งสื่อ social media ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ทำให้

หลาย ๆ ธุรกิจหันมาใช้ Social Media เป็นช่องทางหนึ่งในการทำการตลาด +

Technology

  1. ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิตอาหารขบเคี้ยวได้พัฒนาขึ้นโดยใช้เครื่องเอ็กซ์ทรูเดอร์มาใช้ ทำให้รูปแบบและเนื้อสัมผัส รสชาติของอาหารขบเคี้ยวนั้นแตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวได้อย่างครอบคลุม ส่งผลให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพในขั้นตอนกระบวนการผลิตมากขึ้น 
  1. บทบาทของอีคอมเมิร์ซเติบโตมากขึ้น จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค ส่งผลให้ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ +

Environment

  1. พลาสติกมีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการกำจัด (Greenpeace Thailand, 2565) ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ +

Legal

  1. กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่เคร่งครัด ทำให้หลายธุรกิจต้องมีความเข้มงวดในการผลิตและรักษาสิทธิของผู้บริโภคตามกฎหมาย - 

2. การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์

  1. สร้างภาพลักษณ์ที่ยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
  2. สร้างการรับรู้ผ่านการสื่อสารทางการตลาดที่มีความหมาย
  3. ขยายฐานลูกค้าโดยการเจาะกลุ่มตลาดที่มีแนวโน้มใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
  4. เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและได้รับการไว้วางใจในเรื่องของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม 

3. การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย

Target 

กลุ่มคน Gen Z  เพศหญิงและชาย 

 Behavioral

  1. ชอบอ่านฉลากและข้อมูลโภชนาการเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ปราศจากน้ำตาล โซเดียมต่ำ
  2. ชอบเลือกซื้อสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  1. ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพ เช่น การออกกำลังกาย การกินอาหารเพื่อสุขภาพ หรือติดตามเทรนด์สุขภาพอยู่เสมอ

Psychographics

  1. มักเลือกใช้แบรนด์ที่แสดงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคม 
  1. ต้องการใช้ชีวิตที่สมดุล สุขภาพดี และมีความเป็นอยู่ที่ดีทั้งกายและใจ

Lifestyle

  1. คนที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพ สนใจทั้งการออกกำลังกาย โภชนาการที่สมดุล และการเลือกซื้อสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  1. กลุ่มที่เน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนและใช้ทรัพยากรน้อย

Insight ของกลุ่มเป้าหมาย 

จากการสัมภาษณ์เชิงลึกทั้งหมดจำนวน 50 คน

  1. ก่อนซื้อขนมจะชอบดูส่วนผสมโดยเฉพาะปริมาณโซเดียมและน้ำตาล
  2. บางทีกินขนมไม่หมด แล้วพอเก็บไว้ ขนมมันเหนียว 
  3. เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ แล้วต้องแบ่งกันกินขนม มันหยิบไม่ค่อยสะดวกเลย
  4. ถุงขนมบางยี่ห้อฉีกยาก
  5. เลือกซื้อขนมที่มีโซเดียมต่ำ 
  6. ถ้าเลือกได้จะเลือกซื้อขนมที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  1. ถ้าเห็นขนมสองยี่ห้อที่คล้ายกัน แต่ยี่ห้อหนึ่งใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะเลือกซื้อตัวนั้นทันที

4. การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ

ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถ Recycle Reduce และ Reuse ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและแก้ปัญหาส่วนใหญ่ของผู้บริโภคที่ถุงขนมฉีกยาก หรือรับประทานขนมไม่หมด แล้วขนมเหนียวที่มีสาเหตุมาจากอากาศเข้าไปในถุงขนม และเวลาแบ่งเพื่อนรับประทาน หยิบไม่ค่อยสะดวก โดยทางแบรนด์ได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เวลาเปิดฝาแล้วตัวบรรจุภัณฑ์จะสามารถคลี่ออกเพื่อให้ง่ายต่อการหยิบรับประทาน หรือถ้ารับประทานไม่หมดก็สามารถหุบเข้าและปิดฝาได้เหมือนเดิม 

5. กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์ 

 4Ps

Product ขนมที่ทำจากแป้งสาลีอบกรอบพร้อมการควบคุมปริมาณแคลอรี น้ำตาล โซเดียม

และไขมันต่ำ โดยขนมจะมี 3 รสชาติ ซึ่งประกอบด้วย รสโนริสาหร่าย รสบาร์บีคิว และรสหม่าล่า 

บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำจากกระดาษ พลาสติกชนิดโพลีเอททิลีนและอลูมิเนียมฟอยล์ที่สามารถ นำไป Recycle, Reuse ได้

Price  ราคา 59 บาท โดยใช้กลยุทธ์การตั้งราคาเชิงจิตวิทยาหรือการใช้ตัวเลขที่มีผลทางจิตวิทยาของลูกค้ามากำหนดการตัดสินใจซื้อ เมื่อตั้งเป็นตัวเลข 9 ต่อท้าย โดยที่เลขข้างหน้ายังไม่ขยับเพิ่ม จึงทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความคุ้มของราคาได้มากกว่า

Place ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังร้านค้าปลีก ช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และเคาน์เตอร์ห้างสรรพสินค้า 

Promotion  

  1.  Advertising ใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการนำเสนอความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ เช่น ความเป็นขนมเพื่อสุขภาพ มีแคลอรีต่ำ น้ำตาลและโซเดียมต่ำ พร้อมเน้นคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้  
  2. Direct Marketing การออกบูธเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายโดย มีการแจกสินค้าเพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองชิม 

Strategy 

ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Packaging) เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจาก กระดาษ พลาสติกชนิดโพลีเอททิลีนที่สามารถรีไซเคิลได้และอลูมิเนียมฟอยล์ โดยชั้นแรกเป็นโพลิเอทิลีนเพื่อป้องกันความชื้นจากภายนอก ชั้นที่ 2 คือ กระดาษเพื่อสร้างความแข็งแรงของกล่อง จากนั้นจะเป็นชั้น โพลิเอทิลิน และอลูมิเนียมฟอยล์ เพื่อคุมอุณหภูมิและชั้นโพลิเอทิลีนเพื่อผนึกกล่องให้แน่น

ออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ 

ออกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งสาลีพร้อมการควบคุมปริมาณแคลอรี น้ำตาล โซเดียม และไขมันต่ำ โดยขนมจะมี 3 รสชาติ ซึ่งประกอบด้วย รสโนริสาหร่าย รสบาร์บีคิว และรสหม่าล่า ชูจุดขายเกี่ยวกับการที่เป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพ ยังคงรสชาติที่อร่อยและน่าตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภค ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพและต้องการรับประทานขนมรสชาติใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์นี้จะวางจำหน่ายผ่าน ช่องทางออนไลน์ และ โมเดิร์นเทรด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง 

สร้างการรับรู้แบรนด์และสร้างฐานลูกค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านเครื่องมือ IMC  (Integrated Marketing Communication) 

Advertising Social Media Marketing 

  1. ใช้ Facebook, Instagram, และ TikTok เพื่อสร้างเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจและเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ เช่น วิดีโอสั้นแนะนำประโยชน์ของการบริโภคขนมเพื่อสุขภาพ และแสดงให้เห็นว่าบรรจุภัณฑ์สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างไร
  2. จัดทำแคมเปญ กระตุ้นให้ลูกค้าร่วมกันแชร์ภาพถ่ายหรือวิดีโอของตนเองที่ใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างกระแสบนโซเชียล
  3. Collaboration กับ Influencers สายสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพื่อรีวิวและแนะนำสินค้า
  4. จัดทำ Blog Posts หรือบทความที่เน้นเรื่องการเลือกอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพและวิธีการช่วยลดขยะพลาสติกผ่านบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้

Personal Selling 

  1. เน้นให้พนักงานขายแสดงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ว่าเป็นขนมเพื่อสุขภาพและมีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Direct Marketing 

  1. Event Marketing จัดพื้นที่ชิมฟรี (Tasting Booths): ตั้งบูธชิมฟรีในร้านค้า โดยเสนอให้ลูกค้าทดลองขนมเพื่อกระตุ้นการซื้อ มีเกมหรือกิจกรรมชิงรางวัลผ่านทาง Line Official เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดี ถือเป็นการเสนอให้ลูกค้าสมัครสมาชิกหรือกรอกข้อมูลติดต่อเพื่อรับข่าวสาร โปรโมชันพิเศษ หรือส่วนลดในอนาคต มีสถานที่ถ่ายภาพที่ลูกค้าสามารถแชร์บนโซเชียลมีเดีย 
  2. Email Marketing : ส่งจดหมายข่าว (Newsletter) เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่, โปรโมชัน และเคล็ดลับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Sales Promotion

  1. เสนอโปรโมชันลดราคาหรือซื้อเป็นชุดเพื่อดึงดูดความสนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น แพ็คเกจพิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจสุขภาพ
  2. สร้างโปรแกรมสะสมคะแนน โดยให้ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ สามารถแลกเป็นคะแนนสะสมเพื่อนำไปแลกผลิตภัณฑ์ฟรีหรือส่วนลดในครั้งถัดไป
  1.  การจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น ส่วนลดเมื่อซื้อครั้งแรก, แจกสินค้าทดลองฟรี หรือโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1

Public Relations (PR)

  1. จัดทำแคมเปญที่เน้นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมกับการเผยแพร่ข่าวสารในสื่อมวลชนและเว็บไซต์ด้านสิ่งแวดล้อม
  2. ร่วมมือกับโครงการปลูกป่าหรือโครงการรักษ์โลกอื่น ๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

 6 . KPI การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์จากกิจกรรมทางการตลาด ภายในระยะเวลา 6 เดือน

1.ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Packaging) เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

-ยอดขาย 100,000 ห่อ

2.ออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ 

-ยอดขาย 100,000 ห่อ 

3.สร้างการรับรู้แบรนด์และสร้างฐานลูกค้า ผ่านเครื่องมือ IMC (Integrated Marketing Communication) 

สร้างแคมเปญโฆษณาบน Social Media

-จำนวนผู้รับชมโฆษณา 3,000,000 Views

ออกบูธเดือนละ 1 ครั้งเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่าย 

-จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 6,000 คน

-จำนวนผู้สมัครสมาชิก 4,000 คน

other Ideas