มิลลี่ ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรักษ์โลก

Team : สู้เพื่อแม่
Member
Ms Nalinee Larpmark
Ms Phiraya Detkhampoo
Ms Chutikan Dokjanklang
แผนการพัฒนาแบรนด์และคุณค่าของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ : บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา Mily (มิลลี่)
1. การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ
1.1) การวิเคราะห์ทางการเมือง (Political Analysis)
- กฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายอาหาร เช่น การควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร อาจส่งผลต่อกระบวนการผลิตและต้นทุน
- ความไม่เสถียรภาพทางการเมืองหรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายภาษีอาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายและการดำเนินธุรกิจ
1.2) การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ (Economic Analysis)
- การเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจหรือการถดถอย อาจมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
- ราคาวัตถุดิบหลัก เช่น แป้งและเครื่องปรุงอาจมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลต่อราคาขายและกำไร
1.3) การวิเคราะห์ทางสังคมและวัฒนธรรม (Social and Cultural Analysis)
- ความนิยมในการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแนวโน้มการใช้ชีวิตและสุขภาพ
- การเพิ่มขึ้นของการตระหนักถึงสุขภาพอาจทำให้ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงหรือทางเลือกที่มีสุขภาพดี
1.4) การวิเคราะห์ทางเทคโนโลยี (Technological Analysis)
- เทคโนโลยีใหม่ในการผลิตและการบรรจุภัณฑ์อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
- การใช้เทคโนโลยีในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับกลยุทธ์การตลาด
1.5) การวิเคราะห์ทางกฎหมาย (Legal Analysis)
- การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหารและมาตรฐานคุณภาพ
- การปกป้องสูตรและแบรนด์เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ
1.6) การวิเคราะห์ทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Analysis)
- การจัดการกับขยะจากบรรจุภัณฑ์และการผลิตอย่างยั่งยืน
2. การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์
2.1) การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly Awareness) ทำให้ผู้บริโภครู้ว่าแบรนด์ของเราใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ผงปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทำมาจากเจลาติน เมื่อต้องการจะต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผู้บริโภคแค่ฉีกถุงและเทลงหม้อได้เลย เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ผงปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสามารถละลายกับน้ำได้ และบรรจุภัณฑ์ใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทำมาจากกระดาษ สามารถย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้การตลาดผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ของผู้บริโภค
2.2) การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยทำแคมเปญโฆษณาและเน้นการใช้สื่อโซเชียลเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
2.3) การสร้างความแตกต่างในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมใช้จุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ คือ "บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ 100%"
2.4) การขยายตลาดไปยังกลุ่มที่สนับสนุนสินค้ารักษ์โลกในระดับสากล ขยายแบรนด์สู่ตลาดสากลโดยเฉพาะประเทศที่มีนโยบายสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยวางแผนการตลาดระหว่างประเทศและเลือกพันธมิตรที่สอดคล้องกับค่านิยมด้านความยั่งยืน
3. การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ทำจากเจลาตินจะมีความสนใจในด้านสิ่งแวดล้อมและการบริโภคที่ยั่งยืน กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้มีคุณลักษณะที่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรและมีพฤติกรรมการซื้อที่มองหาสินค้าที่เป็นมิตรต่อโลก รายละเอียดและ insight ของกลุ่มเป้าหมายมีดังนี้
3.1) กลุ่มคนรักษ์สิ่งแวดล้อม (Eco-conscious consumers)
- พฤติกรรม: คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ พวก
เขามักเลือกสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้หรือทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เจลาติน
- Insight: ความสำเร็จในการทำตลาดกับกลุ่มนี้อยู่ที่การสื่อสารถึงความเป็น "บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก" อย่างชัดเจน รวมถึงการเน้นว่าการเลือกบรรจุภัณฑ์จากเจลาตินช่วยลดขยะพลาสติกและช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
3.2) กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน (Millennials and Gen Z - Sustainability-focused)
- พฤติกรรม: คนกลุ่มนี้มักใส่ใจเรื่องความยั่งยืน และต้องการสนับสนุนสินค้าที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- Insight: พวกเขาต้องการเห็นแบรนด์ที่มีความโปร่งใสเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและวัสดุที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการย่อยสลายทางชีวภาพของเจลาตินจะเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญ นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่ยังให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก
3.3) กลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ (Innovative product seekers)
- พฤติกรรม: กลุ่มนี้สนใจในผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ไม่เพียงแค่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
- Insight: การใช้บรรจุภัณฑ์เจลาตินที่สามารถย่อยสลายได้เป็นแนวคิดที่ใหม่และน่าสนใจ ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของคนกลุ่มนี้ได้อย่างมาก เพราะพวกเขามองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการบริโภคอาหาร
3.4) กลุ่มคนรักสุขภาพ (Health-conscious consumers)
- พฤติกรรม: คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ใช้ในอาหาร รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของตนเองและสิ่งแวดล้อม
- Insight: บรรจุภัณฑ์ที่ใช้เจลาติน ซึ่งมีคุณสมบัติย่อยสลายทางชีวภาพ และปลอดภัยต่อสุขภาพ จะทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และประทับใจในความตั้งใจของแบรนด์ในการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
3.5) กลุ่มคนที่สนใจเรื่อง Zero Waste (Zero Waste enthusiasts)
- พฤติกรรม: คนกลุ่มนี้พยายามลดการใช้ขยะหรือการสร้างขยะให้มากที่สุด และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำไปย่อยสลายได้
- Insight: บรรจุภัณฑ์จากเจลาตินที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพจะเป็นที่ถูกใจกลุ่มนี้อย่างยิ่ง เพราะช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดจากการใช้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งโดยปกติจะมีบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
3.6) กลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่เริ่มตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม (General consumers becoming
environmentally aware)
- พฤติกรรม: กลุ่มนี้อาจไม่ได้มีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากในตอนแรก แต่เริ่มเรียนรู้และตระหนักถึงผลกระทบของขยะพลาสติกและผลกระทบต่อโลก พวกเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสินค้าเพื่อลดผลกระทบ
- Insight: การให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ใช้เจลาติน รวมถึงการให้ความรู้เรื่องการย่อยสลายของบรรจุภัณฑ์ จะช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดและเพิ่มความสนใจในผลิตภัณฑ์นี้มากขึ้น
4. การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ
สำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา Mily โดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีสองส่วนสำคัญ คือ ซองบรรจุด้านนอกที่ทำจากกระดาษ MG และซองใส่เครื่องปรุงรสด้านในที่ทำจากเจลาตินแทนพลาสติก มีรายละเอียดดังนี้
ส่วนที่ 1 ซองบะหมี่บรรจุด้านนอกที่ทำจากกระดาษ MG
รายละเอียดการออกแบบมีดังนี้: กระดาษ MG (Machine Glazed) เป็นกระดาษที่มีคุณสมบัติเด่นที่เหมาะสมในการนำมาใช้ในการทำซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา Mily เนื่องจากมีคุณสมบัติดังนี้ :
1. พื้นผิวมันวาวด้านเดียว
• กระดาษ MG มีความมันบนผิวด้านหนึ่งซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการพิมพ์ลวดลายและข้อความต่าง ๆ บนบรรจุภัณฑ์ ทำให้กราฟิกดูคมชัดและดึงดูดสายตา
• ด้านที่ไม่มันสามารถเป็นด้านที่สัมผัสอาหารหรือทำหน้าที่เป็นชั้นกันความชื้นได้ในระดับหนึ่ง
2. ป้องกันความชื้นได้ดี
• กระดาษ MG มีความสามารถในการป้องกันความชื้นได้ดีพอสมควร ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่ภายใน ทำให้บะหมี่ไม่เสื่อมสภาพง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศหรือความชื้น
3. สามารถย่อยสลายได้ง่าย
• กระดาษ MG ทำจากเส้นใยธรรมชาติ จึงสามารถย่อยสลายได้ง่ายเมื่อถูกทิ้ง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีในการลดปริมาณขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม
4. มีความยืดหยุ่นและทนทานพอสมควร
• แม้จะเป็นกระดาษ แต่ MG มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นพอสมควร ช่วยให้สามารถบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเครื่องปรุงภายในโดยไม่ฉีกขาดง่าย
5. เป็นมิตรกับการพิมพ์ลวดลาย
• กระดาษ MG สามารถพิมพ์ลวดลายและสีสันต่าง ๆ ได้ดี จึงสามารถใช้สร้างบรรจุภัณฑ์ที่ดูสวยงามและน่าดึงดูด
6. การเคลือบเสริม
• กระดาษ MG อาจมีการเคลือบเสริมเพื่อป้องกันความชื้นและเพิ่มความทนทานมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อคุณสมบัติการย่อยสลาย
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ กระดาษ MG จึงเป็นวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการนำมาใช้ในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา Mily ที่เน้นความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วนที่ 2 ซองเครื่องปรุงด้านในทำจากเจลาติน
การใช้ซองเจลาตินในการบรรจุเครื่องปรุงรสในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทนการใช้พลาสติกเป็นวิธีที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเจลาตินสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นี่คือข้อควรพิจารณาและกระบวนการสำหรับการใช้ซองเจลาติน :
คุณสมบัติของเจลาตินในการทำซองบรรจุเครื่องปรุง
1. สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ:
- เจลาตินเป็นวัสดุที่ทำจากโปรตีนสัตว์ ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ จึงช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกและช่วยลดปัญหาขยะในสิ่งแวดล้อม
2. ทนทานต่ออุณหภูมิ:
- เจลาตินสามารถทนทานต่ออุณหภูมิที่เหมาะสมได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อถูกเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อสัมผัสกับน้ำร้อน ซองเจลาตินสามารถละลายได้ ทำให้สะดวกในการใช้งานในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
3. ความปลอดภัยต่อการบริโภค:
- เจลาตินเป็นสารที่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค ดังนั้นแม้ว่าซองจะละลายในน้ำซุป เครื่องปรุงก็สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างที่เป็นอันตราย
กระบวนการในการใช้ซองเจลาตินสำหรับเครื่องปรุง
1. การผลิตซองเจลาติน:
- การผลิตซองเจลาตินสามารถทำได้โดยการขึ้นรูปเจลาตินให้เป็นแผ่นบางแล้วตัดเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับบรรจุเครื่องปรุง
- อาจมีการเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เช่น สารปรับปรุงเพื่อให้ซองเจลาตินมีความแข็งแรงมากขึ้นและทนทานต่อความชื้นภายในบรรจุภัณฑ์บะหมี่
2. การบรรจุเครื่องปรุง:
- เครื่องปรุงรสเช่น ผงน้ำซุป น้ำมันปรุงรส หรือพริก สามารถบรรจุลงในซองเจลาตินได้เหมือนกับซองพลาสติกทั่วไป ซองเหล่านี้ควรสามารถซีลได้แน่นเพื่อป้องกันการซึมของความชื้นหรืออากาศ
3. การใช้งานของผู้บริโภค:
- เมื่อผู้บริโภคฉีกซองบะหมี่ ซองเจลาตินที่บรรจุเครื่องปรุงจะสามารถนำไปใช้ได้ตามปกติ โดยผู้ใช้สามารถเลือกฉีกซองหรือทิ้งทั้งซองลงในน้ำร้อน เพื่อให้เจลาตินละลายพร้อมกับเครื่องปรุงในซุปได้เลย
ข้อควรพิจารณา
- ความทนทานต่อความชื้น: ซองเจลาตินอาจต้องมีการออกแบบให้ป้องกันความชื้นจากภายนอกบรรจุภัณฑ์ มิฉะนั้นอาจเกิดการละลายก่อนเวลาใช้งาน
- การทนความร้อนในกระบวนการผลิต: ซองเจลาตินต้องสามารถทนต่อความร้อนที่ใช้ในกระบวนการบรรจุบะหมี่และเครื่องปรุงได้
- ต้นทุน: การใช้เจลาตินอาจมีต้นทุนที่สูงกว่าพลาสติก ดังนั้นการพิจารณาด้านต้นทุนผลิตภัณฑ์อาจเป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง
ประโยชน์ของซองเจลาติน
- ลดการใช้พลาสติก: การใช้เจลาตินช่วยลดการพึ่งพาพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาขยะในทะเลและมลพิษในสิ่งแวดล้อม
- รักษาคุณภาพอาหาร: เจลาตินสามารถคงความสดใหม่ของเครื่องปรุงไว้ได้ดี โดยไม่กระทบกับคุณภาพหรือรสชาติ
- การย่อยสลายตามธรรมชาติ: เมื่อซองเจลาตินถูกทิ้งลงในสิ่งแวดล้อม จะสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่เป็นภาระต่อระบบจัดการขยะ
5. ข้อมูลผลิตภัณฑ์ (หลังซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Mily)
Mily Instant Noodles
Flavor: หมูสับน้ำดำ
ส่วนประกอบสำคัญ:
• เส้นบะหมี่ (แป้งสาลี, น้ำมันปาล์ม, เกลือ)
• ผงปรุงรส (น้ำตาล, เกลือ, พริกไทย, กระเทียม)
• น้ำมันปรุงรส (น้ำมันพืช, ซีอิ๊วดำ, กระเทียม)
• เนื้อหมูอบแห้ง 5%
• สารปรุงแต่งกลิ่นรส (ธรรมชาติ)
• ซองบรรจุภัณฑ์ทำจากกระดาษ MG และซองเครื่องปรุงทำจากเจลาตินธรรมชาติที่ย่อยสลายได้
ข้อมูลโภชนาการ (ต่อ 1 ซอง, 70 กรัม):
• พลังงาน: 320 กิโลแคลอรี
• ไขมันทั้งหมด: 12 กรัม (18%)
• ไขมันอิ่มตัว: 5 กรัม (25%)
• โซเดียม: 900 มิลลิกรัม (38%)
• คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด: 45 กรัม (15%)
• ใยอาหาร: 2 กรัม (8%)
• น้ำตาล: 2 กรัม
• โปรตีน: 7 กรัม
• วิตามินเอ: 0%
• วิตามินซี: 2%
• ธาตุเหล็ก: 8%
*เปอร์เซ็นต์ข้อมูลโภชนาการอ้างอิงจากปริมาณที่แนะนำ
ต่อวัน 2,000 กิโลแคลอรี
วิธีการปรุง (Cooking Instructions):
1. นำเส้นบะหมี่และเครื่องปรุงออกจากซอง
2. ต้มน้ำ 350 มิลลิลิตรจนเดือด
3. ใส่เส้นบะหมี่ลงไปต้ม 3-4 นาที จนเส้นนุ่ม
4. เติมผงปรุงรสและน้ำมันปรุงรสลงในถ้วย
5. เทน้ำเดือดและเส้นบะหมี่ลงในถ้วย คนให้เข้ากันพร้อมเสิร์ฟ
*หมายเหตุ: ซองเจลาตินสามารถละลายในน้ำเดือดได้ ปลอดภัยสำหรับการบริโภค
คำแนะนำการเก็บรักษา: ควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง
หมายเหตุ: บรรจุภัณฑ์นี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ 100% ช่วยลดการใช้พลาสติก
ข้อมูลการผลิต:
• ผลิตและจัดจำหน่ายโดย: บริษัท Mily Foods จำกัด
• ที่อยู่: XXX
• วันผลิต (MFD): [ระบุวันที่]
• วันหมดอายุ (EXP): [ระบุวันที่]
ข้อมูลการติดต่อ:
• บริการลูกค้า: 02-xxx-xxxx
• เว็บไซต์: www.milyfoods.com
• Facebook: MilyFoods
• LINE: @MilyFoods
6. การคำนวณต้นทุน และตั้งราคาต่อหน่วย
ปัจจัยที่ต้องคำนวณ
1. ต้นทุนวัตถุดิบ (บะหมี่ เครื่องปรุงรส)
- วัตถุดิบในการทำเส้นบะหมี่
- เครื่องปรุงรส (ผงซุป, น้ำมัน, เครื่องปรุงต่าง ๆ)
2. ต้นทุนบรรจุภัณฑ์
- ซองบะหมี่ (กระดาษ MG): ต้นทุนกระดาษ MG จะสูงกว่าพลาสติกบ้าง เนื่องจากเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ซองเครื่องปรุง (เจลาติน): ซองเจลาตินจะมีต้นทุนที่สูงกว่าซองพลาสติกแบบทั่วไป
- ค่าออกแบบบรรจุภัณฑ์และพิมพ์ลายบนซอง
3. ต้นทุนการผลิต
- ค่าใช้จ่ายในการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (เช่น ค่าเครื่องจักร, ค่าแรงงาน)
4. ต้นทุนการขนส่งและกระจายสินค้า
- ค่าขนส่งจากโรงงานไปยังร้านค้า
- ค่ากระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย
5. ต้นทุนทางการตลาดและการโฆษณา
- ค่าทำการตลาดเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่
- ค่าโฆษณาในสื่อต่าง ๆ
6. ภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายในห้างร้าน
7. กำไรที่ต้องการ (Markup)
- ต้องพิจารณาสัดส่วนกำไรที่ต้องการจากราคาต้นทุนทั้งหมด เพื่อกำหนดราคาขายให้สามารถแข่งขันได้และยังคงสร้างกำไรได้ดี
สมมุติตัวเลขต้นทุนสำหรับคำนวณ
• วัตถุดิบบะหมี่และเครื่องปรุง: 3 บาท
• บรรจุภัณฑ์กระดาษ MG: 1.5 บาท
• ซองเจลาตินบรรจุเครื่องปรุง: 1.0 บาท
• ค่าแรงและค่าการผลิต: 2.0 บาท
• ค่าการตลาดและโฆษณา: 1.0 บาท
• ค่าขนส่งและกระจายสินค้า: 1.5 บาท
• ภาษีและค่าธรรมเนียม: 7% ของราคาสินค้าขั้นสุดท้าย
การคำนวณเบื้องต้น
ต้นทุนรวมต่อซอง = วัตถุดิบ + บรรจุภัณฑ์ + ค่าแรง + การตลาด + การขนส่ง
= 3 + 1.5 + 1.0 + 2.0 + 1.0 + 1.5
= 10 บาท
กำไรที่ต้องการ
โดยทั่วไป ผู้ผลิตอาจต้องการกำไรประมาณ 30-50% ขึ้นอยู่กับตลาดและการแข่งขัน ดังนั้น หากตั้งสมมุติให้ต้องการกำไร 40% ราคาขายที่ต้องตั้งจะเป็น:
ราคาขาย (ไม่รวมภาษี) = ต้นทุนรวม + กำไร
= 10 บาท + (10 บาท * 0.40)
= 10 บาท + 4 บาท
= 14 บาท
คำนวณภาษี (VAT)
ภาษี VAT 7% = 14 บาท * 0.07
= 0.98 บาท
ราคาขายสุดท้ายต่อซอง
ราคาขายรวมภาษี = 14 บาท + 0.98 บาท
= 14.98 บาท
ดังนั้น ราคาขายปลีกต่อซองของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ Mily ที่ทำจากวัสดุรักษ์โลกและซองเครื่องปรุง เจลาตินควรอยู่ที่ประมาณ 15 บาทต่อซอง
7. กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์
การพัฒนากิจกรรมการตลาดและแบรนด์สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทำจาก
เจลาติน และถุงกระดาษ มีดังนี้
7.1) การสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness Campaigns)
- แคมเปญโฆษณาที่เน้นความยั่งยืน : สร้างแคมเปญที่เน้นเรื่องการใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ทำจากเจลาติน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการลดขยะพลาสติก และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย, วิดีโอออนไลน์
- การใช้ influencers สายสิ่งแวดล้อม : ร่วมงานกับ influencers หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงที่เน้นด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโปรโมทบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น
7.2) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่น (Packaging Development for Brand Identity)
- ดีไซน์บรรจุภัณฑ์ที่สื่อถึงความรักษ์โลก : บรรจุภัณฑ์ออกแบบให้มีภาพลักษณ์ที่สะอาดและทันสมัย โดยใช้สีและกราฟิกที่สื่อถึงธรรมชาติ เช่น สีเขียว น้ำตาล และลวดลายธรรมชาติที่แสดงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ฉลากที่ให้ข้อมูลชัดเจน: บนบรรจุภัณฑ์มีการระบุข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของเจลาตินที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และวิธีการกำจัดขยะที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของการใช้ผลิตภัณฑ์นี้
- บรรจุภัณฑ์แบบโปร่งใสบางส่วน : ใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนโปร่งใสเพื่อให้เห็นเนื้อหมภายใน ช่วยให้ผู้บริโภคเห็นถึงคุณภาพของอาหารและสร้างความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์
7.3) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)
- แคมเปญโซเชียลมีเดีย : ทำคอนเทนต์ที่เน้นเรื่องการรักษ์โลก เช่น การแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการลดขยะพลาสติก หรือการย่อยสลายของบรรจุภัณฑ์เจลาติน พร้อมให้คำแนะนำในการเลือกซื้อสินค้าที่รักษ์โลก
- การทำโฆษณาแบบ Native Ads : โฆษณาเนื้อหาที่เนียนไปกับคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคสนใจอยู่แล้ว เช่น บทความเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
7.4) การตลาดแบบมีส่วนร่วม (Engagement Marketing)
- จัดแคมเปญให้ลูกค้าร่วมกิจกรรม : จัดแคมเปญที่ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม เช่น การส่งไอเดียการลดขยะในชีวิตประจำวันแล้วให้รางวัลตอบแทน หรือให้ผู้บริโภคที่ใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกส่งรูปถ่ายพร้อมแชร์ประสบการณ์ และแจกของรางวัลให้ผู้เข้าร่วม
- จัดทำโปรแกรมสมาชิก : สร้างโปรแกรมสะสมแต้มจากการซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใช้บรรจุภัณฑ์เจลาติน โดยมอบส่วนลดหรือสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่มีการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการใช้ซ้ำ
7.5) ความร่วมมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม (Partnerships with Environmental
Organizations)
- แคมเปญ “ซื้อหนึ่ง ให้หนึ่ง” (Buy One, Give One) : ทุกครั้งที่ผู้บริโภคซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
บรรจุภัณฑ์เจลาติน บริษัทจะบริจาคเงินหรือสินค้าเพื่อสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่า หรือการทำความสะอาดชายหาด
7.6) การประชาสัมพันธ์ในร้านค้า (In-store Marketing)
- ตัวอย่างทดลอง (Free Sampling) : แจกตัวอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกที่เน้นขายสินค้ารักษ์โลก เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองและรับรู้ถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์
8. การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์
8.1) การรับรู้และการเข้าถึงแบรนด์ (Brand Awareness & Reach)
ตัวชี้วัด:
- จำนวนผู้ที่เห็นหรือรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ (ผ่านโฆษณา, แคมเปญออนไลน์, โซเชียลมีเดีย ฯลฯ)
- อัตราการรับรู้แบรนด์ (Brand Recognition) หรือการจดจำชื่อแบรนด์
เครื่องมือวัดผล:
- การใช้แบบสำรวจความคิดเห็น (Surveys)
- การใช้เครื่องมือการวิเคราะห์เว็บ เช่น Google Analytics
- การวิเคราะห์การเข้าถึงและการรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Insights, Instagram Insights
8.2) การมีส่วนร่วมของผู้บริโภค (Consumer Engagement)
ตัวชี้วัด:
- จำนวนการกดไลค์ แชร์ และคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย
- จำนวนการรีวิวและการพูดถึงแบรนด์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ
เครื่องมือวัดผล:
- เครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย เช่น Hootsuite หรือ Sprout Social
- การติดตามการรีวิวจากเว็บไซต์ที่มีการจัดอันดับสินค้า
8.3) ความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty)
ตัวชี้วัด:
- อัตราการซื้อซ้ำ (Repeat Purchase Rate)
- คะแนนความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction Score)
- คะแนนความภักดีหรือ NPS (Net Promoter Score)
เครื่องมือวัดผล:
- การสำรวจหลังการซื้อหรือการใช้สินค้า
- การใช้โปรแกรมสะสมคะแนนหรือบัตรสมาชิกเพื่อวัดการซื้อซ้ำ
8.4) การรับรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนและบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
ตัวชี้วัด:
- อัตราการตระหนักถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของบรรจุภัณฑ์
- การตอบรับจากผู้บริโภคเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
- จำนวนการพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
เครื่องมือวัดผล:
- การทำแบบสอบถามหรือสำรวจเกี่ยวกับทัศนคติของลูกค้าต่อบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
- การวิเคราะห์โซเชียลมีเดียเพื่อดูการสนทนาและการกล่าวถึงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
8.5) การประเมินตำแหน่งของแบรนด์ในตลาด (Brand Positioning)
ตัวชี้วัด:
- การเปรียบเทียบกับแบรนด์คู่แข่งในแง่ของภาพลักษณ์และจุดขาย
- การรับรู้ถึงความแตกต่างของแบรนด์ในหมู่ผู้บริโภค
เครื่องมือวัดผล:
- การใช้แบบสำรวจผู้บริโภคเกี่ยวกับการรับรู้แบรนด์
- การวิเคราะห์ตลาดและการสำรวจคู่แข่ง