SCGP

บรรจุภัณฑ์เคสตั้งได้

Idea Tank
Team : Re-EartH2O

Member

Mr chanakan krasae

Mr Suphachai Joomprabutr

1.การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ

PESTLE Analysis

-รัฐบาลประกาศใช้ BCGModel เป็นวาระแห่งชาติ ทุกภาคส่วนเริ่มขยับและให้ความสำคัญกับแนวทางลดการใช้พลาสติก รวมทั้งเพิ่มการนำพลาสติกหลังการใช้งาน โดยเฉพาะพลาสติก PET กลับมารีไซเคิลเพื่อใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ทำให้ rPET ที่เป็นอีกตัวหนึงเลือกในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับเคสโทรศัพท์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจมากขึ้น(+)

-รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริม Circular Economy โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้พลาสติก และมีการกำหนดมาตรการลดพลาสติกในปี 2568 ทำให้อุตสาหกรรมที่มีการลดการใช้งานพลาสติกได้รับความสนใจมากขึ้น(+)

-ต้นทุนในการวัสดุ rPET มีต้นทุนสูงกว่าพลาสติกธรรมดาเล็กน้อย เนื่องจากกระบวนการรีไซเคิลและการจัดหาวัตถุดิบ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประโยชน์ทางการตลาดของสินค้าเหล่านี้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ rPET สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้จากการเน้นคุณค่าความยั่งยืน ทำให้เสียบเปรียบคู่แข่งในด้านราคา (-) 

แต่ในด้านของภาพลักษณ์และความยั่งยืน (+)

-ผู้บริโภคไทยให้ความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials(GenY) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเคสโทรศัพท์ การสร้างแบรนด์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ rPET จึงตอบสนองต่อพฤติกรรมนี้ได้ดี(+)

-ปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางสร้างภาพลักษณที่ไม่ดี ดังนั้น บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ rPET ซึ่งสามารถลดขยะพลาสติกได้จะมีผลบวกต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์(+)

-ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิต rPET ก้าวหน้าอย่างมาก สามารถผลิตบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง ทนทาน และมีการออกแบบที่หลากหลาย ทำให้บรรจุภัณฑ์เคสโทรศัพท์ที่ใช้ rPET มีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าพลาสติกทั่วไป ทำให้การใช้งาน rPET มาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ในการห่อหุ้มเคสเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจึงเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีความแข็งแรงทนทานไม่ต่างจากพลาสติก PET ทั่วไป อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าพลาสติกทั่วไปอีกด้วย (+)

-ปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยเป็นปัญหาใหญ่ บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจาก rPET สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ เนื่องจากสามารถรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจาก rPET เป็นอีกตัวเลือกในการลดขยะภายในประเทศได้(+)

-ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้บรรจุภัณฑ์ rPET จะช่วยลดขยะและลดการใช้พลาสติกบริสุทธิ์ ทำให้ rPET จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยในการลดการผลิต PET บริสุทธิ์(+)

-มีการลดภาษีหรือการสนับสนุนอื่นๆจากทางภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้อย่าง rPET ทำให้บริษัทที่มีการใช้ rPET เสียภาษีน้อยลง(+)

SWOT Analysis

จากการเปรียบเทียบกับคู่แข่งของตลาดเคสและบรรจุภัณฑ์เคสสรุปswotได้ว่า

S จุดแข็ง

S1 ใช้วัสดุรักษ์โลก rPET ที่มาจากการรีไซเคิล PET

S2 rPET มีความแข็งแรงทนทานเทียบเท่า virginPET 

S3 rPET สามารถใช้งานปรับตั้งโทรศัพท์ได้นอกจากห่อหุ้มกันกระแทกเคส

W จุดอ่อน

W1 ราคาต้นทุน rPET สูงกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไป

W2 บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจาก rPET ไม่สามารถย่อยสลายเหมือนกระดาษได้

O โอกาส

O1 ผู้คนคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

O2 ปัญหากำจัดขยะพลาสติก

O3 อินฟลูเอนเซอร์เข้ามามีบทบาทในการแนะนำสินค้า

T อุปสรรค

T1 ผู้บริโภคมองว่าบรรจุภัณฑ์ที่รักโลกมีราคาแพง

T2 การใช้พลาสติกยังถูกมองว่าไม่มีความคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

TOWS Matrix

So 

การตลาดที่เน้นวัสดุรักษ์โลก: ใช้ rPET เป็นจุดแข็งในการเน้นเรื่องความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ด้วยการบอกถึงประโยชน์ อย่างเช่น การแสดงข้อมูลการลดขยะพลาสติกจากการใช้ rPET บนบรรจุภัณฑ์ 

ความทนทานและการใช้งานได้หลากหลาย (กันกระแทกในการขนส่งและปรับตั้งโทรศัพท์) ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ทางด้านอุปกรณ์โทรศัพท์ และแนะนำสินค้าผ่านช่องทาง Social Media ให้เห็นถึงความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์

St

เน้นการให้คุณค่าในราคาที่คุ้มค่า: ใช้คุณสมบัติความทนทานของ rPET เป็นจุดแข็งในการสื่อสารถึงความคุ้มค่าในระยะยาว แม้สินค้าจะมีราคาสูงกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไป แต่คุณภาพและความทนทานจะทำให้การใช้งานยาวนานกว่า พร้อมทั้งจัดทำแคมเปญที่สื่อสารถึงกระบวนการผลิตที่รักษ์โลกอย่างแท้จริง เพื่อเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่ยังมองว่าการใช้พลาสติกไม่รักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการให้ความรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิล rPET

Wo

แสดงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมในตัววัสดุในการผลิต : แสดงให้เห็นว่าแม้ rPET ไม่สามารถย่อยสลายแบบกระดาษได้แต่เด่นในเรื่องความคงทนในการนำไปใช้งาน อีกทั้งยังมากจากการ Recycle PET ที่เป็นการลดการเกิดขยะพลาสติก ผ่านอินฟลูเอนเซอร์และโซเชียลมีเดีย 

Wt

แสดงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมในตัววัสดุในการผลิต : แสดงให้เห็นว่าแม้ rPET ไม่สามารถย่อยสลายแบบกระดาษได้ แถมมีราคาที่สูง แต่เด่นในเรื่องความคงทนในการนำไปใช้งาน อีกทั้งยังมากจากการ Recycle PET ที่เป็นการลดการเกิดขยะพลาสติก ผ่านอินฟลูเอนเซอร์และโซเชียลมีเดีย 

2. การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์

พัฒนาแบรนด์ให้ตอบโจทย์เทรนด์รักโลกโดยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยการใช้วัสดุ rPET ที่มาจากการนำ PET ไปรีไซเคิล และเน้นไปที่การ Reuse เพราะเป็นการนำสินค้ามาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ที่สามารถ Reduce การผลิตสินค้านั้นๆได้ อีกทั้งยังมีการเลือกใช้ rPET ที่เมื่อหมดอายุขัยการใช้งานแล้วยังสามารถนำกลับไป Recycle มาใช้ซ้ำใหม่ได้

3. การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย

Customer Persona:

กลุ่มลูกค้าหลัก ; เป็นเพศหญิงวัยทำงานอายุ 25-35 ปี รายได้ 20,000-30,000 ซื้อเคสตกเดือนละครั้งถึงสองครั้งตามโปรโมชั่นลดตามวัน ตามเทรนด์ความน่ารักสวยงามไปด้วย มักจะสั่งซื้อทางออนไลน์เป็นหลัก และติดตาม Influencers สายป้ายยาแต่งโทรศัพท์ให้มีความน่ารักและสวยงาม แต่ก็ยังตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในอนาคต

Surveys/Focus Groups: 

จากการทำแบบสอบถามSurveys ผู้บริโภคที่เลือกเคสส่วนมากจะมองที่เคสมากกว่าแพ็กเกจจิ้ง ต้องการให้แพ็กเกจมีความใสเพื่อที่จะได้มองเห็นเคสได้ง่าย ถ้าซื้อเคสมาแล้วจะไม่ค่อยเก็บแพ็กเกจของเคสเท่าไหร่ ยกเว้นไว้ใส่เคสอันเดิมที่เปลี่ยนออก แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆจะเก็บทิ้ง และแพ็กเกจจิ้งส่วนมากเป็นถุงพลาสติกที่ใสและบางเพื่อสัมผัสกับเคสได้และมองเห็นเคสได้ 

จากคำถามที่ถามว่าถ้าบรรจุภัณฑ์เคสที่ใช้แล้วอยากให้สามารถทำอะไรได้อีก 

-คำตอบของผู้บริโภคคือ “ถ้าตั้งได้ก็ดีเพราะเวลาทำงานหรือเวลากินข้าวดูซีรีย์/โซเชียลมีเดียร์ต้องคอยหาที่ตั้งเพราะซื้อเคสแบบไม่มีที่ตั้งมาเพราะมันสวยแล้วก็น่ารักกว่า” “อยากให้ตั้งโทรศัพท์ในแนวตั้งได้เพราะต้องใช้โทรคุยกับแม่มันต้องหาอะไรตั้ง เช่น ขวดน้ำแต่มันก็ยังลื่นหล่น” อีกทั้งส่วนมากผู้บริโภคเลือกใช้งานเคสที่มีดีไซน์เรียบๆไม่มีฟังชั่นในการทำงานด้านอื่นๆจึงมีความต้องการหามาทดแทนในส่วนที่ขาดหายไป

4. การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์

เราเน้นไปที่การ Reuse โดยการสามารถทำให้แพ็กเกจจิ้งของเรามี Funcion ในด้านการใช้งานร่วมด้วย ถึงแม้วัสดุของเราจะเป็น rPET ที่มามจากการรีไซเคิล แต่กระบวนการในการรีไซเคิล ในการแยกขยะในประเทศไทยยังไม่ดีพอ เพราะภายนอกผู้คนไม่ได้มีความมรู้ตระหนักถึงกการแยกขยะมากนัก และถังขยะส่วนมากจะทิ้งรวกันแค่ถึงเดียว ทำให้การรีไซเคิลเกิดขึ้นจริงๆน้อยมาก เราจึงเน้นไปที่การ Reuse การนำกลับมาใช้งานเพื่อสร้างประโยชน์ในด้านอื่นๆ พร้อมทั้ง rPET ยังสามารถ Reduce การผลิต PET ใหม่ที่ใช้น้ำมันในการผลิตขึ้นมา หรือถ้าการ Recycle มีการบริหารขัดการที่ดีและทั่วถึงในอนาคต rPET ก็สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อเป็นสินค้าอื่นต่อไปได้ 

บรรจุภัณฑ์ของเราออกแบบจาก Insight ของกลุ่มผู้บริโภคที่ถ้าไม่ทิ้งบรรจุภัณฑ์แล้วอยากให้สามารถทำอะไรได้ ผู้บริโภคหลายคนให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าตัวเองมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่มีโทรศัพท์ติดตัวไปด้วยตลอด ไม่ว่าจะกินข้าว ทำงาน หรือออกไปนอกบ้าน ก็ยังต้องมีโทรศัพท์ และการใช้โทรศัพท์ส่วนมากจะเป็นการใช้งาน  เช่น ดูหนัง ดูซีรีย์ เต้นวีดีโอคอนเท้นTiktok ซึ่งในการที่จะทำแบบนี้ได้คือต้องหาที่ตั้ง เพราะเคสที่ซื้อมาส่วนมมากจะเน้นที่ความสวยงามน่ารัก ไม่ได้เน้นที่การใช้งาน จึงไม่ได้มีเคสที่สามารถตั้งได้ตอนที่ต้องการ พร้อมทั้งเคสที่ออกแบบมาเพื่อกันกระแทกไม่ได้มีความสวยงามน่ารัก และสัมผัสพื้นผิวของตัวเคสไม่นิ่มเท่าเคสเรียบๆ จึงไม่ได้อยากซื้อ 

เราจึงออกแบบมาเป็นบรรจุภัณฑ์ของเคสที่ทำมาจาก rPET ที่มีความใสสามารถมองเห็นเคสได้ อีกทั้งยังสามรถปรับให้ตั้งโทรศัพท์ได้ไม่ว่าจะแนวนอนหรือแนวตั้ง อีกทั้งยังมีรูช่องเว้นไว้ให้เสียบสายชาร์จ และรูระบายอากาศเพื่อป้องกันโทรศัพท์ร้อน สาเหตุที่เลือก rPET หลักๆคือสามารถมองเห็นเคสได้เวลาตั้งโชว์หน้าร้าน และมีความแข็งแรงในการกันกระแทกระหว่างขนส่งสำหรับการสั่งซื้อออนไลน์ ถึงแม้จะยังมีกล่องห่ออีกชั้นมาให้แต่ก็ยังมีแรงกระแทกอยู่ดี

5. กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์

-การจ้าง influencer ในการอธิบายประโยชน์ rPET โดยแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแม้่ไม่ใช่กระดาษที่สามารถย่อยสลายได้ แต่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้นอกจากการทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นตั้งโต๊ะไว้ดูซีรีย์ เล่นติ๊กต๊อก ซึ่งนี่เป็นแค่แพ็กเกจเคสของโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานในการตั้งโต๊ะได้ ถึงแม่จะเป็นเรื่องง่าย แต่แพ็กเกจเคสโทรศัพท์ทั่วไปยังไม่มีแบรนด์ไหนที่ทำได้ ที่นอกจากความสวยงามที่สามารถโชว์ลาย/ลักษณะของเคสได้แล้ว ยังสามมารถนำไปตั้งโต๊ะได้่

6. การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์

KPIs (Key Performance Indicators): เสนอวิธีการตั้ง KPI ที่ชัดเจน เช่น:

-เพิ่มการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมขึ้น 30% ภายใน 6 เดือน โดยใช้การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียและ Influencer Marketing

-เพิ่มยอดขายบรรจุภัณฑ์ที่ทำจาก rPET ขึ้น 25% ภายใน 6 เดือน

-ลดปริมาณขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ลง 10% ภายในปีแรก

-รีวิวการใช้งานจากลูกค้าว่าสามารถใช้งานได้จริง และอัตราการเก็บบรรจุภัณฑ์ไว้ใช้งานเพิ่มขึ้น 30%

other Ideas