SCGP

เอิร์ธแวร์ กล่องเก็บอาหารจากน้ำตาลอ้อย

Idea Tank
Team : ขอแบบคิดเร็วๆ

Member

Ms Sarungorn Seehaprom

Ms Kanokorn Chantarasena

Ms Phraephet Makmoon

  1. ) วิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ (Market Situation

   ปี 2566 คาดมูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์รวมเติบโต 4.0% โดยบรรจุภัณฑ์กระดาษเติบโตสูงสุด เติบโตรองลงมาเป็นบรรจุภัณฑ์โลหะ และบรรจุภัณฑ์พลาสติก ตามลำดับ

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดว่าแนวโน้มตลาดบรรจุภัณฑ์ของไทยในปี 2566 จะขยายตัว 4.0% อยู่ที่ 6.69 แสนล้านบาท ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ส่งผลทำให้การค้าขายดีขึ้น โดยแบ่งผลการประเมินทิศทางแนวโน้มมูลค่าตลาด

        บรรจุภัณฑ์พลาสติกคิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์รวมในไทย แต่มีทิศทางการใช้ลดลงตามเทรนด์รักษ์โลก

ttb analytics ศึกษาโครงสร้างตลาดบรรจุภัณฑ์ไทย โดยใช้ข้อมูลงบการเงินที่ผู้ประกอบการจัดส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า โดยส่วนใหญ่มูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์ไทยเป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกคิดเป็นสัดส่วน 51% รองลงมา ได้แก่ บรรจุภัณฑ์กระดาษ และบรรจุภัณฑ์โลหะ คิดเป็นสัดส่วน 33% และ 16% ตามลำดับ จะเห็นว่าในประเทศไทยตลาดบรรจุภัณฑ์พลาสติกมีสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดรวม 

เนื่องจากพฤติกรรมการใช้บรรจุภัณฑ์ของผู้บริโภคนิยมใช้พลาสติกในการหีบห่อสินค้า มีความสะดวกและแข็งแรง อย่างไรก็ดี บรรจุภัณฑ์พลาสติกย่อยสลายได้ค่อนข้างยาก กระบวนการผลิตและทำลายพลาสติกก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมีเทนและเอทิลีน ส่งผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม

(ttbbank, 2566) https://www.ttbbank.com/th/newsroom/detail/packaging-marketing-2566

ปี 2567-2569 คาดว่าอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกจะเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย หนุนความต้องการใช้พลาสติกของอุตสาหกรรมปลายทาง อาทิ บรรจุภัณฑ์  ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้างและเครื่องมือแพทย์ ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม New S-Curve จึงมีส่วนหนุนอุตสาหกรรมพลาสติกที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของอุตสาหกรรมดังกล่าว

        วิจัยกรุงศรีประเมินทิศทางการเติบโตของผู้ประกอบการพลาสติกแต่ละประเภทในปี 2567-2569 ดังนี้

  1. บรรจุภัณฑ์พลาสติก ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์พลาสติกพื้นฐานชะลอลงบ้าง เช่น ถุงหูหิ้ว สำหรับผู้ประกอบการที่ผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดกึ่งแข็งกึ่งอ่อนและชนิดอ่อนจะเติบโตดีตามอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ภาคการค้า และธุรกิจการค้าออนไลน์ ขณะที่ผู้ประกอบการที่มีเทคโนโลยีการผลิตทันสมัย ผลิตได้หลายประเภทและมีคุณภาพสูง มีแนวโน้มรักษาระดับการเติบโตได้ต่อเนื่อง

(krungsri, 2566)

https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/petrochemicals/plastics/io/io-plastics-2024-2026

2) กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์ (Goals) 

เป้าหมายหลัก

  1. สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ: ผู้บริโภคต้องมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
  2. สร้างความต้องการในผลิตภัณฑ์: ทำให้ผู้บริโภคเห็นคุณค่าและต้องการเปลี่ยนมาใช้กล่องเก็บอาหารจากธรรมชาติแทนกล่องพลาสติกทั่วไป
  3. สร้างการรับรู้ในฐานะผู้นำตลาด: เป็นแบรนด์แรกที่นึกถึงเมื่อพูดถึงกล่องเก็บอาหารจากธรรมชาติ

เป้าหมายรอง

  1. เพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด: ขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
  2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า: สร้าง Loyalty Program และช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและบอกต่อ
  3. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์: เป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคม

3) กำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย 

Segmentation 

ด้านประชากรศาสตร์ (Demographic):

  1. อายุ: กลุ่มวัยรุ่น อายุ 18-24 ปี 

                     กลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-40 ปี

                     กลุ่มผู้ใหญ่ อายุมากกว่า 40 ปี

  1. เพศ: ชาย

                     หญิง 

  1. รายได้: กลุ่มที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง 

ด้านพฤติกรรม (Behavioral):

  1. ความถี่ในการใช้: แบ่งเป็นกลุ่มที่ใช้ประจำทุกวัน กลุ่มที่ใช้เป็นครั้งคราว และกลุ่มที่ใช้ในโอกาสพิเศษ
  2. ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม: กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อสิ่งแวดล้อม
  3. ช่องทางการซื้อ: แบ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และกลุ่มที่ซื้อผ่านร้านค้าปลีก

ด้านจิตวิทยา (Psychographic):

  1. ไลฟ์สไตล์: กลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มแม่บ้าน ชอบทำอาหารเอง มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ 
  2. ค่านิยม: กลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ และต้องการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

Targeting 

กลุ่มเป้าหมายหลัก: กลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-40 ปี, เพศหญิง, รายได้ปานกลางถึงสูง

ลักษณะ:

- อายุ:25-40 ปี

- เพศ:หญิง

- รายได้:ปานกลางถึงสูง

- ไลฟ์สไตล์:ชอบทำอาหารเองและใส่ใจสุขภาพ

- ค่านิยม:ให้ความสำคัญกับธรรมชาติและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

- พฤติกรรม:ใช้กล่องพลาสติกเก็บอาหารเป็นประจำทุกวัน, ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์

กลุ่มเป้าหมายรอง: กลุ่มผู้ใหญ่

อายุมากกว่า 40 ปี, หญิง, รายได้ปานกลางถึงสูง

ลักษณะของกลุ่ม:

- อายุ:มากกว่า 40 ปี- เพศ:หญิง

- รายได้:ปานกลางถึงสูง

- ไลฟ์สไตล์:เป็นแม่บ้านที่ชอบทำอาหารให้ลูกและคนในครอบครัว หรือมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการดูแลสิ่งแวดล้อม

- ค่านิยม:ต้องการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

- พฤติกรรม:ใช้กล่องพลาสติกเก็บอาหารเป็นประจำ, ซื้อผ่านร้านค้าปลีก

กลุ่มเป้าหมายรอง: กลุ่มวัยรุ่น อายุ 18-24 ปี, เพศหญิง, รายได้ปานกลาง

ลักษณะของกลุ่ม:

- อายุ: 18-24 ปี

- เพศ: หญิง

- รายได้: ปานกลาง (มักเป็นนักเรียนหรือวัยเริ่มต้นทำงาน)

- ไลฟ์สไตล์: ชอบทำอาหารเองหรือมีความสนใจในการทดลองสิ่งใหม่ ๆ

- ค่านิยม: สนับสนุนสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

- พฤติกรรม: ใช้กล่องพลาสติกเก็บอาหารเป็นครั้งคราว, ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์

Positioning

Customer insight 

กังวลเรื่องสารเคมี: ผู้บริโภคหลายคนกังวลว่ากล่องพลาสติกทั่วไปอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเมื่อสัมผัสกับอาหารร้อน หรือผ่านการใช้งานซ้ำๆ

ปัญหาเรื่องกลิ่น: กล่องพลาสติกบางชนิดอาจกักเก็บกลิ่นอาหารได้ ทำให้กล่องมีกลิ่นเหม็นและส่งผลต่อรสชาติของอาหารมื้อต่อไป

ไม่ทนทาน: กล่องพลาสติกบางชนิดอาจแตกหักง่าย หรือเสียรูปทรงเมื่อผ่านการใช้งานไประยะหนึ่ง

ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคจำนวนมากมีความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของขยะพลาสติกต่อโลก

ไม่สวยงาม: บางคนอาจรู้สึกว่ากล่องพลาสติกทั่วไปมีดีไซน์ที่ดูไม่สวยงาม หรือไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง

4) การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ (Packaging)

กล่องเก็บอาหารที่ทำจากน้ำตาลอ้อยเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนในยุคปัจจุบัน โดยวัสดุหลักจากน้ำตาลอ้อยเป็นพลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้ไม่ก่อให้เกิดขยะพลาสติกที่มีปัญหาในระยะยาว

กล่องเหล่านี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ

1)ทนความร้อน: สามารถใช้เก็บอาหารร้อนหรืออุ่นได้ โดยไม่ทำให้สารเคมีที่เป็นอันตรายหลุดรั่วออกมา

2)ปลอดภัยต่ออาหาร: วัสดุที่ใช้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่มีสารพิษที่อาจปนเปื้อนในอาหาร

3)ย่อยสลายได้: เมื่อทิ้งในธรรมชาติ วัสดุจะถูกย่อยสลายภายในระยะเวลาไม่นาน ทำให้ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก

ด้วยความพิเศษเหล่านี้ กล่องเก็บอาหารจากน้ำตาลอ้อยจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้การบริโภคอาหารมีความรับผิดชอบต่อโลกมากยิ่งขึ้น

5) กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์ (Action plan)

1.สร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่น่าสนใจ

  1. แคมเปญ "Green Box, Green Earth": สร้าง Content เกี่ยวกับอาหารสุขภาพและการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งแนะนำวิธีการนำกล่องไปใช้งาน

2. สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า

  1. จัดกิจกรรม Workshop: สอนทำอาหารสุขภาพโดยใช้กล่องอาหารของแบรนด์
  2. Pop-up Store: จัดบูธจำหน่ายสินค้าในสถานที่ที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมักจะไป เช่น ตลาดนัด หรือห้างสรรพสินค้า

3. สร้าง Community

  1. กลุ่มบน Social Media: สร้างกลุ่มบน Facebook หรือ Instagram เพื่อให้ลูกค้าได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้งานผลิตภัณฑ์
  2. Influencer Marketing: ร่วมมือกับ Influencer ที่มีความสนใจในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์

6) การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์ (KPI)

KPI (Key Performance Indicator)

  1. ยอดขาย: วัดจากยอดขายรายเดือน รายไตรมาส และรายปี
  2. การรับรู้ของแบรนด์: วัดจากการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้า และการติดตาม Social Media
  3. จำนวนผู้ติดตามบน Social Media: วัดจากจำนวนผู้ติดตามบนช่องทางต่างๆ เช่น Facebook, Instagram
  4. Engagement: วัดจากปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าบน Social Media เช่น จำนวน Like, Share, Comment

other Ideas