กลิ่นผกาไทย

Team : I2A
Member
Ms Piyathida Thepdaruk
Ms Rattikan Tancharoen
Ms Sarungorn Seehaprom
สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ:
ในปัจจุบันคนไทยรุ่นใหม่หันมาสนใจการบริโภคขนมไทยกันมากขึ้น คนไทยส่วนใหญ่ 42% ค่อนข้างชอบขนมไทย 38% ชอบกินมาก มีเพียงราว 4% เท่านั้นที่ไม่ชอบกินขนมไทย แต่ในทางตรงกันข้าม มีคนไทยราว 10% เท่านั้นที่จะกินขนมไทยทุกวัน อีก 90% ถูกแบ่งเป็นคน 2 กลุ่มในสัดส่วนใกล้เคียงกัน กลุ่มหนึ่งนาน ๆ กินที และอีกกลุ่มคือกินสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเท่านั้น แต่ก็ยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่ยังเลือกที่จะปฏิเสธขนมไทย เพราะยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพ จึงทำให้ขนาดของตลาดการผลิตขนมไทยและขนมพื้นเมืองมีมูลค่า 337,748,885 บาท
ขนมไทยส่วนใหญ่บรรจุภัณฑ์ยังคงเป็นพลาสติก ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยตามท้องตลาด ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือตามร้านของฝาก ส่งผลกระทบให้ภายในปัจจุบัน ประเทศไทยมีขยะพลาสติกเกิดขึ้นถึงร้อยละ 12 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์ประมาณปีละ 0.5 ล้านตัน (ร้อยละ 25) ส่วนที่เหลือ 1.5 ล้านตัน (ร้อยละ 75) ซึ่งพลาสติกส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว อาทิ ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงหูหิ้ว แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก กล่องโฟมหรือกล่องพลาสติกบรรจุอาหาร ไม่มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ และยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข แม้ว่าจะมีความพยายามในการรณรงค์ให้ลดการใช้พลาสติก แต่ปริมาณขยะพลาสติกก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะถูกทิ้งเป็นขยะมูลฝอย
เป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์
- เพื่อลดจำนวนการใช้พลาสติก
- เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
- เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน
- เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างอนาคตที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง
- เพิ่มยอดขายขนมไทยโดยรวม โดยเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ คนที่ชอบกินขนมไทยเป็นประจำ และกลุ่มที่สนใจสิ่งแวดล้อม
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย
Custumer Insight
1.ไม่อยากให้บรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติกและยางสีแดง
2.อยากให้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
3.ฉันเลือกรับประทานขนมไทยจากการพกพาง่าย
4.ฉันชอบซื้อขนมไทยไปฝากคนรู้จัก
5.ฉันชอบแพ็คเกจที่มดจะไม่ขึ้นขนมของฉันง่าย
6.ฉันสนับสนุนแบรนด์ที่รักษ์โลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Targeting(กลุ่มเป้าหมาย)
1. คนชอบรับประทานขนมไทย:
- กลุ่มลูกค้า: ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบรสชาติและวัฒนธรรมไทย มีความผูกพันกับขนมไทยตั้งแต่เด็ก หรือต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ทางด้านอาหาร
- Insight:
- ความชอบ: ชื่นชอบรสชาติหวานมัน หอมกลิ่นกะทิ มะพร้าว และวัตถุดิบธรรมชาติ
- โอกาสในการบริโภค: มักบริโภคขนมไทยในโอกาสพิเศษ เช่น เทศกาล งานเลี้ยง หรือเป็นของฝาก
- ความต้องการ: ต้องการขนมไทยที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย สะอาด ถูกสุขอนามัย และมีหลากหลายรูปแบบ
2. คนรุ่นใหม่:
- กลุ่มลูกค้า: ผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงานที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ใหม่ๆ ชื่นชอบการถ่ายภาพและแบ่งปันบนโซเชียลมีเดีย
- Insight:
- ความชอบ: ชื่นชอบขนมไทยที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย รสชาติผสมผสานระหว่างขนมไทยดั้งเดิมกับรสชาติใหม่ ๆ
- โอกาสในการบริโภค: มักบริโภคขนมไทยเป็นของว่างระหว่างวัน หรือเป็นของหวานหลังอาหาร
- ความต้องการ: ต้องการขนมไทยที่มีแพ็คเกจจิ้งสวยงาม น่าสนใจ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
3. คนรักษ์โลก:
- กลุ่มลูกค้า: ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ และมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- Insight:
- ความชอบ: ชื่นชอบขนมไทยที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่ใส่สารกันบูด และมีบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้
- โอกาสในการบริโภค: มักบริโภคขนมไทยเป็นอาหารว่าง หรือเป็นของหวานหลังอาหาร
- ความต้องการ: ต้องการขนมไทยที่มีความโปร่งใสในเรื่องของวัตถุดิบและกระบวนการผลิต
- ความกังวล: กังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงมองหาขนมไทยที่ผลิตโดยคำนึงถึงความยั่งยืน
Persona
ชื่อ: กานต์
อายุ: 25-35 ปี
อาชีพ: พนักงานออฟฟิศ, ฟรีแลนซ์ หรือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก
ไลฟ์สไตล์: ชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เน้นความเป็นธรรมชาติ ชอบออกกำลังกาย และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ความสนใจ: ขนมไทย, ขนมหวาน, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ความต้องการ:
- ผลิตภัณฑ์: ต้องการขนมไทยที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี และมีรสชาติอร่อย
- บรรจุภัณฑ์: ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ และป้องกันขนมได้ดี
- แบรนด์: ต้องการสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- ประสบการณ์: ต้องการประสบการณ์การบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรู้สึกดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลก
พฤติกรรม:
- ช่องทางการซื้อ: ชอบซื้อสินค้าออนไลน์, ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าออร์แกนิก หรือตลาดนัด
- การตัดสินใจซื้อ: อ่านรีวิวสินค้า, เปรียบเทียบราคาและคุณภาพ, เลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่คุ้นเคย
- การใช้งานโซเชียลมีเดีย: ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ต่าง ๆ
ความกลัว:
- กังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ
กลิ่นผกาไทย เป็นแบรนด์บรรจุภัณฑ์สำหรับขนมไทย เนื่องจากขนมไทยเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เราอาจพบเห็นได้ตามร้านรถเข็น ตลาดนัด ส่วนมากแล้วล้วนแต่บรรจุในถุงพลาสติก กล่องพลาสติก เป็นต้น ที่มาของชื่อแบรนด์มาจากกลิ่นของขนมไทยที่มีความหอมคล้ายกับดอกไม้ไทย บรรจุภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นพลาสติก PLA (Polylactic Acid) มีส่วนประกอบจากข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย หรือธัญพืช สามารถขึ้นรูปได้เร็ว ย่อยสลายได้ภายใน 180 วัน และเนื่องจากเป็นพลาสติกที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ จึงมีกลิ่นอ่อนๆของการหลอมละลาย เราจึงใส่กลิ่นเปลือกส้ม ผงอบเชย สารไพรีทรินส์เป็นสารสกัดจากดอกไพรีทรัม (เป็นดอกไม้ในสกุลเดียวกับดอกเบญจมาศ) เพื่อลดกลิ่นของการหลอม และป้องกันมดแมลงเข้าไปในกล่องขนมอีกด้วย สีฟ้าของบรรจุภัณฑ์ได้จากการสกัดดอกอัญชัน สีเหลืองของโลโก้ได้จากการสกัดขมิ้น และจะสกรีนไปกับกล่อง เพื่อลดค่าใช้จ่าย ลดทรัพยากรในการผลิต รักษาสิ่งแวดล้อม เมื่อทานขนมเสร็จแล้ว สามารถ recycle กล่องได้ โดยดึงขึ้นตั้งตรง แบ่งเป็น 4 ช่อง สามารถทำเป็นที่วางแก้วซ้อนกัน หรือวางของอื่น ๆ ได้อีกด้วย
กิจกรรมทางการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์
กลยุทธ์การตลาด
- สร้างแบรนด์:
- ชื่อแบรนด์และโลโก้: ชื่อและโลโก้สื่อถึงความเป็นธรรมชาติและความยั่งยืน ได้แก่ กลิ่นผกาไทย
- เรื่องราวของแบรนด์: “ผกาไทย" คือการเดินทางกลับไปสู่รากเหง้าของรสชาติไทยแท้ ผ่านขนมหวานโบราณที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่ให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและรสชาติที่ลงตัว ชื่อ "ผกาไทย" นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากดอกผกา ซึ่งเป็นดอกไม้ไทยที่มีความสวยงามและหอมหวาน เป็นตัวแทนของความเป็นไทยที่เรียบง่ายแต่ทรงเสน่ห์และแบรนด์ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม จึงออกแพ็คเกจมาเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ผลิตภัณฑ์
- ความหลากหลาย: พัฒนาบรรจุภัณฑ์ภ์ขนมไทยให้มีความหลากหลาย ทั้งบรรจุภัณฑ์ขนมไทยดั้งเดิม และบรรจุภัณฑ์ขนมไทยฟิวชั่น
- วัสดุ: เน้นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และปลอดสารเคมี
- บรรจุภัณฑ์: เลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้
- ราคา :
- Value-Based Pricing:
เหตุผล: เน้นคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ วัตถุดิบธรรมชาติ และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อดี: ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับคุณค่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
การตั้งราคา: ตั้งราคาตามต้นทุนบวกกำไรที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ
ราคา: 159 บาท
- ช่องทางการจัดจำหน่าย:
- ออนไลน์: สร้างเว็บไซต์และจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
- ออฟไลน์: ร่วมกับร้านค้าที่เน้นสินค้าสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ตลาดนัด ตลาดกลางคืน
- การสื่อสาร:
- โซเชียลมีเดีย: สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับขนมไทย วิธีทำขนม และเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์
- Influencer Marketing: ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่ชอบรีวิวอาหาร และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- Content Marketing: สร้างบล็อกหรือบทความเกี่ยวกับขนมไทยและความยั่งยืน
- กิจกรรมส่งเสริมการขาย:
- โปรโมชั่น: จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่า
- กิจกรรม: จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปสอนทำขนมไทย หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม
- สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า:
- โปรแกรมสะสมแต้ม: สร้างโปรแกรมสะสมแต้มเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
- ช่องทางการติดต่อ: เปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามและให้ข้อเสนอแนะ
2. Action Plan
ระยะเวลา :
เดือนที่ 1 ทำกิจกรรมวิจัยตลาดเพิ่มเติม, ออกแบบบรรจุภัณฑ์ รับผิดชอบโดย ทีมการตลาด มีงบประมาณ 50,000 บาท
เดือนที่ 2 ทำกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, สร้างเว็บไซต์ รับผิดชอบโดย ทีมผลิตภัณฑ์, ทีม IT มีงบประมาณ 100,000 บาท
เดือนที่ 3 ทำกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์, จัดกิจกรรมเปิดตัว รับผิดชอบโดย ทีมการตลาด, ทีมขาย มีงบประมาณ 80,000 บาท
เดือนที่ 4-6 ทำกิจกรรมโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย, ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ รับผิดชอบโดย ทีมการตลาด มีงบประมาณ 120,000 บาท
เดือนที่ 7-12 ทำกิจกรรมขยายช่องทางการจัดจำหน่าย, พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รับผิดชอบโดย ทีมขาย, ทีมผลิตภัณฑ์ มีงบประมาณ 150,000 บาท/เดือน
3. การวัดผล
- ยอดขาย: ติดตามยอดขายรายเดือนและเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
- จำนวนลูกค้าใหม่: ติดตามจำนวนลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น
- การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย: ติดตามจำนวนผู้ติดตาม, การกดไลค์, การแชร์ และการคอมเมนต์
- ความพึงพอใจของลูกค้า: จัดทำแบบสอบถามเพื่อวัดความพึงพอใจของลูกค้า