กระเป๋าใส่ผ้าห่ม

Team : โอห์ม [Ω]
Member
Ms พนิดา บุญเทพงษ์
Ms สุปราณี สุภาพันธ์
1.สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ
ในปัจจุบัน กระแสความตระหนักในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุรีไซเคิลมากขึ้น อาทิ ที่นอนและหมอนที่ผลิตจากยางพาราซึ่งมีความยั่งยืน หรือผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนที่ทำจากฝ้ายออร์แกนิก ซึ่งไม่ใช้สารเคมีในการผลิตและไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการการเก็บเกี่ยวและการผลิต รวมไปถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุย่อยสลายได้เพื่อลดปริมาณขยะและการสะสมของมลพิษในระยะยาว นอกจากการใช้วัสดุธรรมชาติและยั่งยืนแล้ว ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจและความนิยมจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นคุณภาพชีวิต สุขภาพ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมเครื่องนอนต้องปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ การปรับเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานที่ยั่งยืน จะช่วยให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
2. ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และ Insight
- กลุ่มเป้าหมาย บุคคลที่อาศัยอยู่หอพัก และคอนโด
- Insight ของกลุ่มเป้าหมาย
จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้ซื้อชุดเครื่องนอนพบว่าคนส่วนใหญ่ที่ซื้อชุดเครื่องนอนหลังจากที่เอาผ้าห่มหรือผ้าปูที่นอนออกมาแล้ว ถุงที่ใส่ผ้าปูที่นอนมานั้นไม่ถูกนำกลับมาใช้ช้ำและเวลานานไปถุงนั้นเสื่อมสภาพและไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกทำให้ต้องทิ้งไป
Pain Point
- ทิ้งไว้นานแล้วถุงเสื่อมสภาพไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก
- อยากเอากระเป๋าใส่ผ้าห่มไปใช้งานอย่างอื่นได้
- ซิบแตกง่าย
- สายหิ้วไม่แข็งแรง
- ไม่ชอบสีใส
3. เป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์
ในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์ของชุดเครื่องนอนมักจะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกทิ้งไปหลังจากการใช้งาน หรือเก็บไว้นานจนเกิดการเสื่อมสภาพ และหลายแบรนด์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบหรือเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน เพราะมองว่าอย่างไรก็ตามบรรจุภัณฑ์เหล่านี้จะถูกทิ้งในที่สุด จึงเลือกใช้วัสดุที่มีราคาต่ำเพื่อลดต้นทุนการผลิต ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถนำบรรจุภัณฑ์ไปใช้งานซ้ำให้เกิดความคุ้มค่า
LuxorLinens เล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีความทนทานมากขึ้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ซ้ำและเกิดประโยชน์ในหลากหลายด้าน เราได้ออกแบบกระเป๋าใส่ผ้าห่มที่มีความแข็งแรง โดยเลือกใช้วัสดุจากเส้นใยโพลีเอสเทอร์ที่ผลิตจากขวดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งนอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีคุณสมบัติทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว กระเป๋าใส่ผ้าห่มนี้ไม่เพียงใช้สำหรับเก็บผ้าห่มหรือชุดเครื่องนอนเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้งานอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น กระเป๋านี้สามารถใช้เป็นถุงใส่เสื้อผ้าเพื่อนำไปซัก ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่หอพักหรือผู้ที่ต้องไปซักผ้าตามร้านซักรีดภายนอก นอกจากนี้ กระเป๋ายังสามารถนำมาใช้จัดเก็บผ้าในตู้เสื้อผ้า ช่วยประหยัดพื้นที่และทำให้การจัดเก็บเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบที่เน้นความทนทานและหลากหลายในการใช้งาน ผู้บริโภคจึงสามารถใช้บรรจุภัณฑ์นี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ลดปัญหาการทิ้งขยะที่ไม่จำเป็นและช่วยส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิต
4.การออกแบบบรรจุภัณฑ์
กระเป๋าสำหรับใส่ผ้าห่มที่ออกแบบใหม่นี้มีความหรูหราและทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อปัญหาหรือPain Pointที่พบจากการใช้งาน โดยพบว่าซิปมีแนวโน้มที่จะแตกง่ายและไม่ทนทาน ดังนั้น ผู้จัดทำจึงได้เลือกใช้ระบบหูรูดแทนการใช้ซิป อีกทั้งยังได้เพิ่มจุดล็อคจำนวน 6 จุด เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานจากสายหูหิ้วมาเป็นสายสะพายได้อย่างสะดวกสบาย กระเป๋าดังกล่าวมีขนาดกว้าง 30 ซม. และยาว 65 ซม. โดยลวดลายของกระเป๋าจะตรงกับลวดลายของผ้าห่ม ซึ่งช่วยให้สามารถระบุลวดลายของผ้าห่มได้อย่างชัดเจน
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ภายใต้กระบวนการ 3R
1.Reduce
ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ โดยการนำขยะประเภทขวดพลาสติกมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
2.Recycle
วัสดุที่ใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์คือเส้นใยโพลีเอสเทอร์และตัวล็อกกระเป๋า โดยวัสดุทั้งหมดได้มาจากขวดน้ำพลาสติกที่ผ่านกระบวนการ Recycle ทั้งสิ้น
3.Reuse กระเป๋าใส่ผ้าห่มสามารถนำมาใช้ซ้ำได้และสามารถนำไปใช้งานต่อได้หลากหลายตามความต้องการของลูกค้า เป็นการลดการเกิดขยะและเพิ่มการใช้งานซ้ำ
5. กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์
1.การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่
Objective
- ลดการสร้างขยะจากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
- เพิ่มความสามารถในการใช้งานซ้ำ เพื่อให้กระเป๋าใส่ผ้าห่มสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- นำวัสดุเหลือใช้กลับมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
- กระตุ้นยอดขายจากการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
Detail
เนื่องจากเราเห็นปัญหาการใช้แล้วทิ้งของกระเป๋าใส่ผ้าห่มทางเราจึงคิดบรรจุภัณฑ์ใหม่นี้ออกมาเพื่อเป็นการลดปริมาณขยะและสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ของเราได้มีการนำพลาสติกโพลีเอสเทอร์จากขวดน้ำมารีไซเคิลเป็นกระเป๋าใส่ผ้าห่ม และได้มีการออกแบบกระเป๋าให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย
2.Bag to the Future
Objective
- สร้างการรับรู้ของแบรนด์
Detail
บนบรรจุภัณฑ์จะมี QR code ที่เมื่อสแกนจะพาเราไปหน้าเว็บไซต์ และสามารถดูวิดีโอที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการรีไซเคิล เหมือนได้พาเราเดินทางย้อนเวลากลับไปดูขั้นตอนต่างๆ ที่ทำให้ขวดพลาสติกธรรมดากลายมาเป็นกระเป๋าใส่ผ้าห่มใบนี้ พร้อมกับเนื้อหาที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลและความสำคัญของการลดขยะพลาสติกในอนาคต
3. Eco point
Objective
- กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
Detail
- ลูกค้าจะได้รับ 50 Points ต่อการซื้อสินค้าจากแบรนด์ เช่น ผ้าห่มหรือชุดเครื่องนอน
- ใช้บรรจุภัณฑ์ซ้ำ ลูกค้าที่โพสต์ภาพการใช้กระเป๋าใส่ผ้าห่มซ้ำในการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดีย เช่น การนำกระเป๋าใส่ผ้าห่มใส่ผ้านำไปซัก หรือนำไปเป็นกระเป๋าใส่เสื้อผ้าเดินทาง จะได้รับ 20 Points ต่อครั้งละไม่เกิน1โพสต์ต่อวัน โดยการโพสต์ต้องติดแฮชแท็ก #LuxorLinens #BagToTheFuture และแท็กเพจเฟสบุ๊คแบรนด์ LuxorLinens
- Extra points ในแต่ละเดือนจะมีแคมเปญที่ให้ลูกค้าสะสมคะแนนได้สองเท่า เช่น ในช่วง “Green Day” เมื่อลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์หรือโพสต์ภาพจะได้รับคะแนน 2 เท่า
- เมื่อสะครบ 500 Points สามารถนำมาแลกเป็นของรางวัลหรือส่วนลดจากทางแบรนด์ LuxorLinens
- LuxorLinens Eco Points ลูกค้าสามารถติดตามคะแนนและดูรายละเอียดต่างๆ ผ่านเว็บเพจ LuxorLinens สามารถแสกนผ่าน QR Code ตรงกระเป๋าใส่ผ้าห่มได้เลย
4. หนาวนี้กอดใคร หนาวไหมห่ม Luxor
Objective
- เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้าใหม่
Detail
จัด Sales Promotions ให้กับลูกค้าที่มาซื้อในช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม จะได้รับ LuxorLinens Eco Points 3 เท่าจากปกติ และเมื่อซื้อชุดเครื่องนอนจากแบรนด์ และหากซื้อ LuxorLinens 2 ชุด ชุดต่อไปจะได้รับส่วนลด 10%
6.การวัดผล KPI
1.วัดจากยอดขายและการกลับมาซื้อซ้ำ
2.Bag to the Future
- มีคนสแกน QR Code เข้าสู่เว็บไซต์ LuxorLinens 10,000 ครั้ง
3.Eco Points
- มีคนร่วมโพสต์ลงเฟสบุ๊คติดแฮชแท็ก #LuxorLinens #BagtotheFuture และแท็กเพจเฟสบุ๊คแบรนด์ LuxorLinens 7,000 โพสต์
- มีคนเข้าร่วมเล่นกิจกรรม 5,000 คน
- มียอดขายสินค้าและร่วมเล่นกิจกรรมในวัน “Green Day” เพิ่มขึ้น 40% จากยอดขายหรือยอดผู้เข้าเล่นกิจกรรมวันธรรมดา
- มีคนแลกของรางวัล 500 คน
4.หนาวนี้กอดใคร หนาวไหมห่ม Luxor :
- มียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น 20%