บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มซิปล็อคในรูปแบบถุงชาที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้

Team : XiaoLong Cha
Member
Mr Trin Sathitpanawong
Ms Piyavadee Leelangamwongsa
แผนการพัฒนาแบรนด์และคุณค่าของผลิตภัณฑ์
1.การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ
จุดแข็ง (Strengths) : คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ ,มีแหล่งทรัพยากรเพียงพอในการผลิต ,การที่สามารถนำตัวบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำได้ ,มีสถานที่ใช้สำหรับทดลองและผลิตบรรจุภัณฑ์ต้นแบบได้ ,มีอาจารย์ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องวัสดุ และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ,มีทีมที่ให้คำปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจ ,มีความเข้าใจธรรมชาติของบรรจุภัณฑ์อย่างลึกซึ้ง ,มีกลุ่มตัวอย่างมากพอที่ใช้สำหรับทำการวิจัย ,มีเทคโนโลยีมากพอที่จะใช้ในการผลิตและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ,เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีทั้ง Reuse Reduce Recycleไปในตัว ,กระบวนการผลิตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ,มีศักยภาพในการต่อยอดและพัฒนา เพิ่มได้อีก
จุดอ่อน (Weaknesses) : สินค้ายังไม่มีมาตรฐานรองรับ ,อยู่ไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ ,ยังไม่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ,ยังไม่ได้สำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภค
โอกาส (Opportunities) : การขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศไทย ,สินค้ามีความเป็นเอกลักษณ์ของไทยจะดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่สนใจและชื่นชอบประเทศไทยได้ดี ,ช่วยกระตุ้นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มพี่น้องสหกรณ์ผู้ปลูกชาในประเทศไทย ,ทำให้นักท่องเที่ยวจากนานาชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ,เป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตใบชาให้มีราคาสูงขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
อุปสรรค (Threats) : บริษัทเครื่องดื่มขนาดใหญ่ที่ครอง Market share ส่วนใหญ่ในประเทศ ,การจัดทำPromotion ,อำนาจการต่อรองของผู้ขายวัตถุดิบ และกำลังคนหรือเครื่องมือในระดับอุตสาหกรรม และขาดเงินหมุนเวียน
2.การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์
2.1 ต้องการให้มีคนรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้นอย่างน้อย 50% ของประชากรในประเทศ
2.2 มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาหรือซื้อ 1 แถม 1 ให้บ่อยที่สุด
2.3 จัดกิจกรรมแจกรางวัลประจำเดือนในแต่ละเดือน
2.4 ต้องการตอบแทนลูกค้าโดยการแจกของรางวัลอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง
2.5 เมื่อทำการผลิตต้องได้รับเงินจนถึงจุดคุ้มทุนภายใน 5 เดือน เป็นอย่างน้อย
2.6 หากมีกำไรและความนิยมเพียงพอ พวกเราต้องการที่จะขยายกำลังการผลิตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
3.การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย
การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย : ลูกค้าที่ชื่นชอบการดื่มชา , บุคคลทั่วไปที่มีอายุ 60+
รายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย : กลุ่มเป้าหมายอยู่ในวัยเกษียณอายุ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการอะไรที่ผ่อนคลายและส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะอยู่คนเดียว หรือได้อยู่กับลูกหลานแค่ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ นั้นจึงจำเป็นต้องทำให้พวกเขาได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อใจ สร้างความตื่นตาตื่นใจเนื่องจากลูกเล่นความแปลกใหม่ในทุกครั้งที่ซื้อ รวมถึงรูปแบบบรรจุภัณฑ์ต้องดีต่อตาอีกด้วย และรสชาติต้องทำให้พวกเขารู้สึกอร่อยอีกทั้งคุ้มค่าคุ้มราคา ดังนั้นเราจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญ ณ จุดนี้ และต้องการสร้างชิ้นงานนี้ขึ้นมา เพื่อทำให้ได้รับความนิยมในสังคมเป็นอย่างยิ่ง
4.การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ
การออกแบบเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์ : ออกแบบเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน , เนื่องจากสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงสามารถลดขยะเนื่องจากการทิ้งบรรจุภัณฑ์ ,ในอนาคตจะพยายามใช้เทคโนโลยีไบโอพลาสติกเสริมเข้าไป เพื่อทำให้บรรจุภัณฑ์สามารถย่อยสลายได้ ,รูปแบบของฉลากแฝงความเป็นไทยและมีคุณค่าทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่มีอยู่แต่เดิมได้เป็นอย่างมาก
ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ : บรรจุภัณฑ์ทรงถุงชาที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ เช่น นำกลับมาใช้เก็บของ หรือ ผู้ซื้อสามารถนำบรรจุภัณฑ์มาใช้เป็นแพ็คเกจของตัวเองได้ เนื่องจากลายของฉลากสารถลอกได้ง่าย และบรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรง สามารถใส่ของแห้ง หรือเครื่องดื่มได้
5.กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์
กิจกรรมการตลาด : มีการออกบูธ , มีเว็บไซด์ และ Social media
6.การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์
วัดผล และ บอกจุดแข็ง-จุดอ่อนของการจัดกิจกรรม
มีการวัดผลการทำ Social Media Marketing
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.บรรจุภัณฑ์ที่สามารถใช้ซ้ำได้
2.เป็นการลดขยะไปในตัวเนื่องจากการใช้ซ้ำ
3.วัสดุที่ใช้ไม่ซับซ้อนและมีไม่กี่ชนิดทำให้สามารถนำไป Recycle ได้อย่างง่ายๆ
4.เนื่องจากเราออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายแบบ จึงทำให้สามารถใส่ของได้หลากหลาย เช่น ใส่ของหรืออาหารที่ต้องการความชื้นต่ำ ใส่เครื่องดื่มที่ยังไม่หมด หรือใส่ของทั่วไป (แต่จริงๆ มีมากกว่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองและบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ)
5.เป็นการเพิ่มมูลค่าของน้ำชาและใบชาของพี่น้องสหกรณ์ชุมชนผู้ปลูกชาในประเทศไทย
6.ช่วยส่งเสริมสินค้าในชุมชน เช่น ชาไทย น้ำชาคุณภาพดีจากพี่น้องสหกรณ์ชุมชนผู้ปลูกชาในประเทศไทย
7.ทำให้เกิด Soft Power ขึ้น เนื่องจากสินค้าในชุมชนได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักของนานาประเทศ.
8.ประเทศไทยได้รับเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อและชมผลิตภัณฑ์ อีกทั้งจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในชุมชน ที่กำลังเป็นที่นิยมของในหมู่นักท่องเที่ยวแทบยุโรป ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทยอย่างยั่งยืน
9.ขั้นตอนการผลิตไม่ใช้น้ำมาก และสารเคมี ดังนั้นจึงเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว
10.ในอนาคตพวกเราจะลองหาวัสดุ Bio plastic เพื่อตอบโจทย์ บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้
11.ผู้ซื้อสามารถนำบรรจุภัณฑ์มาใช้เป็นแพ็คเกจของตัวเองได้ เนื่องจากลายของฉลากสารถลอกได้ง่าย และบรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรง สามารถใส่ของแห้ง หรือเครื่องดื่มได้