SCGP

โคโค่ พี๊พ

Idea Tank
Team : สามทหารเสือ

Member

Ms Supapit Saengklang

Ms Thachanok Kitisoontornpong

Ms Piyathida Sutthisombut

1. การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ

ในการวิเคราะห์ตลาดน้ำตาลมะพร้าวในประเทศไทย มีปัจจัยภายนอกหลายประการที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาด ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนของรัฐบาลในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเน้นการทำเกษตรอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ด้านเศรษฐกิจ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตมะพร้าวรายใหญ่ ทำให้มีศักยภาพในการตอบสนองความต้องการของทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ความต้องการใช้มะพร้าวผลในประเทศ ของผลผลิตทั้งหมดที่ เป็นความต้องการใช้ เพื่อการบริโภคโดยตรงร้อยละ 35 อีกร้อยละ 65 ใช้ใน อุตสาหกรรมแปรรูป เมื่อผลผลิตในประเทศลดลงความต้องการของ ภาคอุตสาหกรรมยังมีอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น ท้าให้ราคาผลผลิต มะพร้าวและราคากะทิสดสูงข้ึนเป็น 2 เท่าในช่วงปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์มะพร้าวแปรรูปในจำนวนมาก ด้านสังคม มีแนวโน้มการบริโภคที่เน้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและออร์แกนิกเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มสนใจความสัมพันธ์กันของสิ่งที่รับประทานเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้บริโภคจึงเป็นตัวช่วยในการผลักดันให้การทำฟาร์มออร์แกนิกหรือเกษตรอินทรีย์กลับมาอีกครั้ง ซึ่งก็คือการใช้สารเคมีที่น้อยลงจนถึงไม่ใช้สารเคมีเลย การจัดการดูแลทรัพยากรดินและน้ำให้ดี ไปจนถึงการปลูกพืชหมุนเวียนและใช้วิธีการที่หลากหลายให้เหมาะกับระบบนิเวศในการทำการเกษตรทำให้น้ำตาลมะพร้าวเป็นที่สนใจในสังคมปัจจุบัน เพราะกระบวนการผลิตและส่วนผสมที่ไม่มีสารเจือปน ผลิตมาจากธรรมชาติ สื่อเข้ามาพูดเรื่องเทรนด์การอยู่อย่างมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น รวมถึงบรรดาไลฟ์สไตล์ บล็อกเกอร์ ตามโซเชียล มีเดียต่างๆ ยังมาช่วยโปรโมตเทรนด์การดูแลสุขภาพอีกด้วย ทางด้านเทคโนโลยี มีการพัฒนากระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีขึ้นมีส่วนช่วยในการยืดอายุและเก็บรักษาผลิตภัณฑ์และแข็งแรงทนทาน ด้านสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสภาพอากาศที่แปรปรวน ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งและพายุฝน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตมะพร้าว 

อุตสาหกรรมน้ำตาลมะพร้าวในประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการต้องมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สารให้ความหวานทางเลือกมากมายในตลาด และผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อราคาของผลิตภัณฑ์สารแทนความหวานที่มีราคาสูง ความเสี่ยงจากสินค้าทดแทนยังคงสูง เพราะผู้บริโภคหันมาสนใจสารให้ความหวานจากธรรมชาติหลากหลายชนิด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการบริโภคที่เน้นเรื่องสุขภาพที่เพิ่มขึ้น เปิดโอกาสให้น้ำตาลมะพร้าวแตกต่างจากคู่แข่งในด้านการผลิต ที่มีส่วนผสมและกรรมาวิธีการผลิตที่ออร์แกนิกและยั่งยืน

2. การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์

COCO PEEP ถือเป็นแบรนด์ใหม่ในตลาด (New Market Entrance) จึงต้องการเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) และการสร้างการพิจารณาซื้อในช่วงแรกของการออกผลิตภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายในการสร้างลูกค้าใหม่ (Recruit New User) และแย่งลูกค้าจากคู่แข่ง (Switch Competitor User)

1. สร้างความตระหนักรู้ในแบรนด์ (Brand Awareness) เนื่องจากเป็นแบรนด์ใหม่ เป้าหมายแรกคือการทำให้กลุ่มผู้บริโภครู้จักแบรนด์และผลิตภัณฑ์น้ำตาลมะพร้าวของเรา โดยจะมุ่งเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย, งานแสดงสินค้า และความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการใช้ influencers/KOLs หรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารในการโปรโมตเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อีกทั้งดีไซน์บรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างและโดดเด่นจะช่วยดึง Traffic ของกลุ่มลูกค้าเข้ามาได้

2. สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน (Brand Positioning) แบรนด์น้ำตาลมะพร้าวจะถูกพัฒนาให้มีภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาสนใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เราจะวางตำแหน่งแบรนด์ในตลาดให้เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ปลอดสารเคมี ผลิตด้วยกระบวนการยั่งยืน และสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

3. สร้างการพิจารณาซื้อ (Consideration) เนื่องจากเป็นแบรนด์ใหม่ จึงต้องการให้เกิด Traffic ในการเข้าชมเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเริ่มพิจารณาน้ำตาลมะพร้าวเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการบริโภคน้ำตาล โดยเน้นถึงคุณสมบัติด้านสุขภาพ ความยั่งยืน และความหลากหลายในการใช้งาน เพื่อเพิ่มอัตราการทดลองซื้อและสร้างความสนใจอย่างยั่งยืน

3. การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และรายละเอียด insight กลุ่มเป้าหมาย

Main Target: เจ้าของร้านอาหาร

  1. อายุ: 30-50 ปี
  1. อาชีพ: เจ้าของกิจการร้านอาหาร เช่น ร้านส้มตำ อาหารตามสั่ง หรือร้านอาหารพื้นบ้าน ๘
  1. พฤติกรรมการบริโภค:

- ใช้น้ำตาลปี๊บเป็นส่วนประกอบหลักในการปรุงอาหาร เช่น ส้มตำ ยำ แกง น้ำพริก เพื่อให้รสชาติหวานกลมกล่อม

- ต้องการน้ำตาลปี๊บที่ละลายง่าย มีความคงตัว ไม่จับเป็นก้อนง่าย และมีรสชาติคงที่เพื่อคุณภาพของอาหารที่สม่ำเสมอ

  1. พฤติกรรมการซื้อ:

- เลือกซื้อน้ำตาลปี๊บจากตลาดสดหรือร้านค้าวัตถุดิบที่สามารถให้ราคาส่ง

- มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีราคาเหมาะสมและคุณภาพดี เนื่องจากต้องใช้น้ำตาลปี๊บในปริมาณมาก

- ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บที่ง่าย ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และเก็บรักษาได้นาน

  1. Pain Points:

- ปัญหาการเก็บรักษาน้ำตาลปี๊บที่เสื่อมสภาพเร็ว หรือจับตัวเป็นก้อนเมื่อเก็บในที่ชื้น

- ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารเปลี่ยน

  1. Insights:

- น้ำตาลปี๊บที่คุณภาพดีและคงที่ ทำให้การทำอาหารรสชาติดีขึ้น ช่วยรักษาฐานลูกค้าได้

- หากมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถเก็บรักษาได้นานและใช้ง่าย จะช่วยลดภาระในการซื้อซ้ำและจัดเก็บแนวคิดการออกแบบบรรจุภัณฑ์

Secondary Target: แม่บ้าน

  1. อายุ: 30-55 ปี
  1. อาชีพ: แม่บ้านหรือผู้หญิงที่มีบทบาทหลักในการทำอาหารให้ครอบครัว
  1. พฤติกรรมการบริโภค: 

- ใช้น้ำตาลปี๊บในเมนูอาหารพื้นบ้านที่ต้องการรสชาติหวานหอม เช่น แกงคั่ว ขนมไทย หรือเมนูน้ำพริก

- ชอบทำอาหารเองที่บ้านเพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความสะอาดของอาหาร

- เลือกวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพและไม่ผ่านกระบวนการทางเคมีมาก

  1. พฤติกรรมการซื้อ:

- มักซื้อน้ำตาลปี๊บจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายของชำในละแวกบ้าน

- ให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเก็บรักษาได้ง่ายและสะดวกในการใช้งาน

- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่แพงและเหมาะกับการใช้งานในปริมาณน้อย

  1. Pain Points:

- การเก็บรักษาน้ำตาลปี๊บที่มักจะชื้นง่ายหรือแข็งตัวเมื่อเก็บไว้นาน

- ต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยสำหรับการทำอาหารในครัวเรือน

  1. Insights:

- ผลิตภัณฑ์น้ำตาลปี๊บที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ดี ช่วยให้การเก็บรักษานานขึ้นและสะดวกต่อการใช้งาน จะเป็นที่ต้องการมาก

- แม่บ้านมักมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้รสชาติเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ

4. Packaging Design Concepts

แนวคิดการออกแบบบรรจุภัณฑ์ พบปัญหาที่แม่ค้ามักพบเจอจากการใช้น้ำตาลปี๊บบรรจุถุงพลาสติกที่ละลายง่ายเมื่อโดนความร้อนและสร้างขยะพลาสติก เราจึงคิดค้นบรรจุภัณฑ์น้ำตาลปี๊บรูปแบบใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยออกแบบเป็นปี๊บขนาดเล็ก รูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากในการใช้งานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปี๊บเล็กแข็งแรงของเราผลิตจากวัสดุผสมระหว่างเซลล์ลูโลสและพลาสติกชีวภาพ (Biodegradable plastic) ทำให้ Reduce การใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์แบบเดิม มีความทนทานต่อการใช้งาน มีหูหิ้วสะดวกต่อการพกพา และมีแผ่นป้องกันมดที่ฐานใต้บรรจุภัณฑ์ป้องกันมดที่จะขึ้นน้ำตาลที่ทํามาจากตัวสารสกัดเก๊กฮวยก็ย่อยสลายและพลาสติกโดยใช้นาโนเทคโนโลยีในการนำสารสกัดไพรีทรอยด์ที่มีอยู่ในธรรมชาติอีกทั้งยังสามารถรักษาคุณภาพของน้ำตาลภายในบรรจุภัณฑ์และยังคงความเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มาของน้ำตาลปี๊บที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ตอบโจทย์แม่ค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าหลัก โดยที่ทำสะดวกมากกว่าถุงพลาสติกที่อาจแตก หรือไม่ทนทานได้ อีกทั้งยังสามารถนำบรรจุภัณฑ์มา Reuse ในการเก็บรักษาอาหารหรือวัตถุดิบทำอาหารชนิดอื่นต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องล้างบรรจุภัณฑ์ เพราะสามารถลอกพลาสติกที่ทําจากเซลลูโลสจากพืชด้านในออกแล้วนำมาใช้ต่อได้เลย โดยบรรจุภัณฑ์ยังสามารถ Recycle ได้เนื่องจากทำมาจากพลาสติกชีวภาพที่ทํามาจากเซลล์ลูโลสและตัวสารสกัดเก๊กฮวยก็ย่อย

ลักษณะตัวแพ็คเกจ ตัวฐานมีลักษณะพิเศษที่มีการออกแบบที่เข้ามาช่วยเหลือทางด้านกันมดหรือแมลง ซึ่งทํามาจากวัตถุของ พลาสติกโดยใช้นาโนเทคโนโลยีในการนำสารสกัดไพรีทรอยด์ที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งพบในพืชตระกูลดอกเบญจมาศมารวมกับโมเลกุลของพลาสติก จึงทำให้พลาติกมีคุณสมบัติในการกันมด และแมลง

ตัวแพ็คเกจมีลักษณะคล้ายถังปิ๊บที่เป็นบรรจุภัณฑ์ดั้งเดิมของนํ้าตาลมะพร้าวปี๊บ ซึ่งป็นจุดเด่นที่มีเอกลักษณ์จึงนําจุดเด่นนี้มาใช้ในการทําเป็นคอนเซปของแพ็คเกจ ที่มีความมิดชิด แข็งแรง ใช้งานง่าย ถนอมน้ำตาลภายในบรรจุภัณฑ์ ฝาปิดของแพ็คเกจนั้นจะติดกับปี๊บ สามารถเปิด ปิด ใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องเปิดฝาแยกออกมาจากตัวปี๊บ

5. กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์

  1. บรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเราสะท้อนถึงธรรมชาติและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น การใช้วัสดุย่อยสลายได้หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  1. บรรจุภัณฑ์ของเราเพื่อเล่าเรื่องราวของแบรนด์และวัตถุดิบ เช่น เน้นถึงที่มาของน้ำตาลมะพร้าวที่มาจากการเกษตรชุมชน และความใส่ใจในการผลิตเพื่อให้ออกมาเป็นน้ำตาลมะพร้าวที่มีคุณภาพดีที่สุด
  1. บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ คือ ปี๊บที่สามารถใช้เป็นภาชนะในครัวเรือน หรือใช้รีฟิลน้ำตาลมะพร้าวได้อีก ซึ่งส่งเสริมแนวคิดเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
  1. การทำแคมเปญการตลาดผ่าน Social E-Commerce เพื่อส่งเสริมการสร้างการรับรู้และเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม และเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์

Special Strategy:

บรรจุภัณฑ์แบบลิมิเต็ดอิดิชัน (Limited Edition): ออกแบบบรรจุภัณฑ์เฉพาะกิจในโอกาสพิเศษ เช่น เทศกาลหรือวันสำคัญ เพื่อสร้างความสนใจและกระตุ้นการซื้อในช่วงเวลาที่จำกัด

แคมเปญบรรจุภัณฑ์ที่สามารถปรับแต่งได้ ลูกค้าสามารถปรับแต่งเองได้ เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถใส่ข้อความหรือภาพลงไป เพื่อให้ลูกค้าสามารถส่งเป็นของขวัญหรือของที่ระลึก

1. กิจกรรมสร้างการรับรู้ (Awareness Campaign)

1.1 ใช้ Influencer Marketing

กิจกรรม: ร่วมมือกับ Influencers ที่มีผู้ติดตามในกลุ่มเป้าหมาย (เช่น นักโภชนาการ, เชฟเพื่อสุขภาพ, แม่บ้านที่เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก) โดยให้พวกเขารีวิวและนำเสนอประโยชน์ของน้ำตาลมะพร้าว พร้อมสูตรอาหารหรือขนมที่ใช้น้ำตาลมะพร้าวในชีวิตประจำวัน

1.2 โซเชียลมีเดียแคมเปญ (Social Media Campaign)

กิจกรรม: สร้างคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว เช่น ประโยชน์ด้านสุขภาพ, การเปรียบเทียบกับน้ำตาลทราย และแสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติ รวมถึงการโพสต์คอนเทนต์ประจำบนแพลตฟอร์มหลัก เช่น Facebook, Instagram, และ TikTok

1.3 แคมเปญเนื้อหา User-Generated Content (UGC)

กิจกรรม: สร้างแคมเปญออนไลน์ที่เชิญชวนผู้บริโภคโพสต์รูปหรือวิดีโอเกี่ยวกับการใช้น้ำตาลมะพร้าวในเมนูอาหารที่พวกเขาชอบ พร้อมแฮชแท็กเฉพาะ เช่น #CoconutSugarChallenge และแจกของรางวัลให้กับผู้เข้าร่วมที่มีผลงานโดดเด่น

6. การวัดผล

  1. Followers Growth จำนวนผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มออนไลน์ E-Commerce/Social E-Commerce รวมทุกช่องทางมากกว่า 1 แสน ภายในเวลา 6 เดือน
  1. Reach & Engagement: จำนวนการมีส่วนร่วม เช่น การกดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ มากกว่า 1 ล้านครั้ง ภายในเวลา6 เดือน
  1. Click-through Rate (CTR): อัตราการคลิกจากลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์หรือร้านค้าออนไลน์ผ่านโพสต์ของ Influencers มากกว่า 1 แสนครั้ง ภายในเวลา 6 เดือน
  1. ยอดขายมากกว่า 1 แสนปี๊บ ภายในเวลา 6 เดือน

other Ideas