SCGP

โอเชียนซิป

Idea Tank
Team : OceanZip.

Member

Ms Athittaya Kaeo-udon

Ms Narisara Peenee

Ms Pimmada Sutthirattanaporn

การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ

การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของน้ำพริกที่แปรรูปจากอาหารทะเลในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป สามารถวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกด้วยเครื่องมือ PESTEL ได้ดังนี้

1. Political (การเมือง)

  1. กฎระเบียบด้านอาหารและสุขอนามัย มีการควบคุมอย่างเข้มงวดจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น อย. (องค์การอาหารและยา) ซึ่งกำหนดมาตรฐานการผลิต การแปรรูป และการบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
  2. รัฐบาลมีนโยบายการส่งเสริมสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป สนับสนุนการส่งออกสินค้าประเภทอาหารแปรรูปโดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ทำให้ธุรกิจสามารถขยายตลาดได้ง่ายขึ้น

2. Economic (เศรษฐกิจ)

  1. อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปมีแนวโน้มเติบโตสูงในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากความต้องการบริโภคอาหารที่สะดวกและเก็บรักษาได้นานเพิ่มขึ้น
  2. ความผันผวนของราคาวัตถุดิบจากทะเล เช่น กุ้ง ปลาหมึก อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะหากวัตถุดิบต้องพึ่งพิงการนำเข้าหรือสภาพอากาศ

3. Social (สังคม)

  1. ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความต้องการอาหารที่สะดวกและเก็บได้นานขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการอาหารที่พกพาง่าย นอกจากนี้ การเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพยังเพิ่มโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติและปราศจากสารกันบูด
  2. พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่มักต้องการความหลากหลายในการเลือกบริโภค ดังนั้นการพัฒนารสชาติใหม่ ๆ ของน้ำพริกแปรรูปหรือการใช้วัตถุดิบพิเศษแปลกใหม่จะช่วยดึงดูดผู้บริโภค

4. Technological (เทคโนโลยี)

  1. การใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปอาหาร เช่น การอบแห้ง การแช่แข็ง หรือการบรรจุภัณฑ์ที่ยืดอายุการเก็บรักษา ช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถคงคุณภาพและรสชาติได้ยาวนานขึ้น
  2. E-commerce และการตลาดออนไลน์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงสามารถส่งออกสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

5. Environmental (สิ่งแวดล้อม)

  1. ธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบจากทะเล เช่น กุ้ง ปลา หรือหมึก จำเป็นต้องคำนึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืนจะช่วยให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  2. แนวโน้มการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น เพราะผู้บริโภคมีความคาดหวังเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจได้

6. Legal (กฎหมาย)

  1. มาตรฐานการส่งออก เนื่องจากธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดของประเทศผู้นำเข้า เช่น FDA ในสหรัฐอเมริกา หรือมาตรฐานยุโรป
  2. ลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยการจดสิทธิบัตรสูตรน้ำพริกหรือเครื่องหมายการค้าของแบรนด์เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ

การวิเคราะห์ปัจจัยภายในด้วย SWOT สำหรับธุรกิจน้ำพริกแปรรูปจากอาหารทะเล 

1. Strengths (จุดแข็ง)

  1. ใช้อาหารทะเลเป็นวัตถุดิบ เช่น กุ้ง ปลา หรือหมึก ช่วยเพิ่มความพิเศษและคุณค่าทางโภชนาการให้กับน้ำพริก ซึ่งเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์
  2. น้ำพริกเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติไทยที่มีรสชาติหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ถูกใจผู้บริโภคในหลายกลุ่ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  3. ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปสามารถเก็บรักษาได้นานและสะดวกต่อการขนส่ง ทำให้มีศักยภาพในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
  4. น้ำพริกมีความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการกินของไทย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดขายในการนำเสนอสินค้าสู่ตลาดต่างชาติที่สนใจอาหารไทย

2. Weaknesses (จุดอ่อน)

  1. วัตถุดิบจากทะเลมีราคาที่ผันผวนตามฤดูกาลและสภาพแวดล้อม ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นและยากต่อการควบคุม
  2. แม้ว่าน้ำพริกแปรรูปจะเก็บรักษาได้นาน แต่การรักษาคุณภาพ รสชาติ และคุณค่าทางอาหารในระยะเวลานานอาจอาจทำให้คุณภาพลดลง

3. Opportunities (โอกาส)

  1. ผู้บริโภคทั่วโลกเริ่มมีความต้องการอาหารแปรรูปที่สะดวกต่อการบริโภคเพิ่มขึ้น รวมถึงการเติบโตของตลาด E-commerce ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
  2. แนวโน้มผู้บริโภคที่สนใจเรื่องสุขภาพเปิดโอกาสให้การพัฒนาน้ำพริกที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ปราศจากสารปรุงแต่ง หรือมีประโยชน์ทางโภชนาการสูง เช่น การเพิ่มส่วนผสมที่มีโปรตีนจากอาหารทะเล
  3. อาหารไทยกำลังเป็นที่นิยมในหลายประเทศ ซึ่งน้ำพริกเป็นผลิตภัณฑ์พื้นบ้านสามารถเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจอาหารไทยได้ดี โดยเฉพาะในประเทศที่มีชุมชนชาวไทยหรือกลุ่มที่สนใจอาหารเอเชีย

4. Threats (อุปสรรค)

  1. ธุรกิจน้ำพริกแปรรูปต้องเผชิญกับการแข่งขันทั้งจากผู้ผลิตรายใหญ่และรายย่อยที่สามารถเข้าถึงตลาดได้เช่นกัน การแข่งขันในด้านราคา คุณภาพ และนวัตกรรมการผลิตเป็นสิ่งที่ท้าทาย
  2. ความผันผวนของเศรษฐกิจและการค้าโลก เช่น อัตราแลกเปลี่ยนหรือข้อจำกัดทางการค้าอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออก

การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์

เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม

  1. เพื่อลดการใช้สารบางประเภท เช่น CFC (Chlorofluorocarbons)  ในกระบวนการผลิตและแปรรูป ส่งผลต่อการทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ และยังก่อให้เกิดขยะอยู่ตามแหล่งชุมชน ในแม่น้ำลำคลอง นอกจากทำลายสิ่งแวดล้อมและภูมิทัศน์แล้วยังก่อให้เกิดมลพิษจากการกำจัดขยะที่ไม่ถูกวิธี เช่น การเผาทำลาย หรือขยะที่กลายเป็นปัญหาทำให้น้ำเน่าเหม็นส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน
  2. ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติหรือรีไซเคิลได้ เช่น กระดาษรีไซเคิล พลาสติกที่ย่อยสลายได้ ไบโอพลาสติก เพื่อลดการใช้พลาสติกและวัสดุที่ไม่ย่อยสลาย ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาแปรรูปเป็นวัสดุในผลิตภัณฑ์แทน
  3. การผลิตที่ขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste Production) มุ่งเน้นการลดการเกิดขยะให้เป็นศูนย์ในกระบวนการผลิต โดยการนำเศษวัตถุดิบหรือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ผ่านมาตรฐานกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่หรือใช้ในประโยชน์อื่น
  4. การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สามารถลดการใช้ทรัพยากรระหว่างกระบวนการผลิตได้

เป้าหมายด้านสังคม

  1. ส่งเสริมการสร้างงานในชุมชน โดยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์โดยใช้แรงงานและวัตถุดิบจากท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย

เป้าหมายด้านการตลาดและแบรนด์

  1. กำหนดเป้าหมายให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในฐานะธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยการใช้สื่อสารผ่านช่องทางการตลาด เช่น การเน้นย้ำถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการบริจาคส่วนหนึ่งของรายได้เพื่อนำไปใช้ในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม
  2. สร้างความแตกต่างผ่านบรรจุภัณฑ์ โดยตั้งเป้าให้บรรจุภัณฑ์ของแบรนด์เป็นจุดขายที่สร้างความโดดเด่นและน่าสนใจ โดยการออกแบบที่สวยงามและใช้งานได้จริง พร้อมกับการเน้นเรื่องความยั่งยืน เช่น บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้
  3. เพิ่มความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยการจับกลุ่มตลาดที่สนใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและปราศจากสารเคมีอันตราย

เป้าหมายด้านการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

  1. การใช้วัตถุดิบที่มีความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายให้วัตถุดิบอาหารทะเลที่นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ เช่น กุ้ง ปลา หรือหมึก มาจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน เช่น การใช้วัตถุดิบจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการประมงที่ยั่งยืน (Marine Stewardship Council - MSC)
  2. ตั้งเป้าหมายในการลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต เพื่อให้การใช้ทรัพยากรน้ำเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการใช้ระบบบำบัดน้ำเสียที่สามารถนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ
  3. ตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขั้นตอนการขนส่ง ด้วยการใช้ระบบขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ไฟฟ้าหรือการขนส่งแบบร่วม (Shared Logistics) เพื่อลดจำนวนเที่ยวขนส่งที่ซ้ำซ้อน และใช้เทคโนโลยีการจัดเส้นทางขนส่งที่ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง

การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย

Segmentation (การระบุกลุ่มเป้าหมาย)

อายุระหว่าง 25-50 ปี เป็นคนที่มักจะอยู่คนเดียว อาศัยอยู่ที่ห้องพัก คอนโด และต้องการความสะดวกสบาย ง่ายต่อการหาซื้อและรวดเร็ว

  1. แบ่งตามพฤติกรรม (Behavioral Segmentation)
  1. ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและโภชนาการ
  2. ผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลและรสชาติเผ็ดจัด
  3. ผู้ที่มองหาความสะดวกสบายในการเตรียมอาหาร
  4. ผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
  1. แบ่งตามจิตวิทยา (Psychographic Segmentation)
  1. ผู้ที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
  2. ผู้ที่รักการเดินทางและการลองอาหารท้องถิ่น

Targeting (การเลือกกลุ่มเป้าหมาย)

  1. กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เป็นผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น อาหารทะเลสดที่ให้โปรตีนสูงและไม่มีสารเคมี
  2. กลุ่มคนเมืองที่มีชีวิตเร่งรีบ คนวัยทำงานที่ต้องการความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการเตรียมอาหาร แต่ยังมุ่งเน้นที่คุณภาพและรสชาติอาหารที่ดี
  3. กลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารทะเลและน้ำพริกที่มีรสชาติของท้องถิ่นจริง รวมถึงกลุ่มผู้ที่เดินทางและต้องการนำผลิตภัณฑ์กลับมาเป็นของฝาก
  4. กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ที่ให้ความสนใจกับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการผลิตที่มีความยั่งยืน

Positioning (การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์)

วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในฐานะน้ำพริกเพื่อสุขภาพ โดยเราเน้นไปที่การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ อาทิเช่น อาหารทะเลสดคุณภาพดี ปราศจากสารกันบูด และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ คุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีนและกรดไขมันดีจากอาหารทะเล และยังเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความสะดวกในการบริโภค น้ำพริกพร้อมรับประทาน มีความหลากหลายของรสชาติและคงความเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติไทย พร้อมบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยและพกพาสะดวก นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ง่ายหรือสามารถรีไซเคิลได้ พร้อมทั้งสื่อสารการใช้วัตถุดิบที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ

บรรจุภัณฑ์น้ำพริกในรูปแบบซองพกพาสะดวก พร้อมซิปล็อก เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในเรื่องของความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย และสามารถเก็บรักษาไว้รับประทานในครั้งถัดไปได้ ไม่ต้องรับประทานให้หมดภายใน 1 ครั้ง และยังคงคุณค่าสารอาหารและรสชาติไว้ได้ดี

วัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ด้านนอกนั้นทำมาจากกระดาษที่แข็งแรงทนทาน และภายในซองบรรจุภัณฑ์เคลือบด้วยไบโอ-พลาสติก จากเปลือกกล้วย ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% เป็นมิตรกับธรรมชาติ และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกถือเป็นการ Reduce และ Recycle ผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับ SDGs หลักความยั่งยืน ดังนี้

เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย และส่งเสริมเกษตร กรรมที่ยั่งยืน คือช่วยสร้างหลักประกันระบบการผลิตที่ยั่งยืนและสามารถนำไปปรับใช้ในระบบการเกษตรที่สามารถเพิ่มผลผลิตและการผลิตได้

เป้าหมายที่ 3 สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดี เพราะการใช้วัสดุอินทรีย์จากเกษตรกรมาเป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ จะช่วยลดจำนวนการตายและการเจ็บป่วยจากสารเคมีอันตรายและจากมลพิษและการปนเปื้อนทางอากาศ น้ำ และดิน

เป้าหมายที่ 12 สร้างหลักประกันให้มีแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน เพราะมีการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ลดขยะเศษอาหารของโลกลงครึ่งหนึ่งในระดับค้าปลีกและผู้บริโภค

เป้าหมายที่ 13 Climate action  เป็นการพัฒนาและป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์

การตลาดผ่านบรรจุภัณฑ์

  1. ใช้การออกแบบที่แปลกใหม่และสร้างเอกลักษณ์ เช่น การใช้สีที่สื่อถึงความสดใหม่ของทะเลและความแซ่บของน้ำพริก หรือรูปภาพของทะเลและอาหารทะเล
  2. รวมข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุดิบ, ข้อมูลโภชนาการ, และประโยชน์ของน้ำพริกทะเล เช่น “ไม่มีสารกันบูด” และ “ใช้วัตถุดิบจากทะเลสดใหม่”
  3. เลือกวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 
  4. โปรโมตความยั่งยืน สื่อสารการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในบรรจุภัณฑ์เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เพิ่มมูลค่าด้วยบรรจุภัณฑ์

  1. บรรจุภัณฑ์ที่เก็บรักษาคุณภาพ เป็นซองที่มีซิปล็อคที่ช่วยในการปิดผนึกรักษาความสดใหม่และรสชาติของน้ำพริกให้คงเดิม
  2. การใช้งานสะดวก  สามารถฉีกซอง รับประทานได้ง่ายและพกพาสะดวก

สร้างความผูกพันกับลูกค้า

  1. การสื่อสารแบรนด์อย่างชัดเจน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพันธกิจของแบรนด์และวิธีที่แบรนด์มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนและคุณภาพ
  2. กิจกรรมส่งเสริมการขาย จัดโปรโมชั่นหรือแคมเปญที่ใช้บรรจุภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่ง เช่น การจัดกิจกรรมแจกบรรจุภัณฑ์พิเศษในช่วงเทศกาล

การทดลองและนวัตกรรม

  1. การเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ ทดสอบบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่มีดีไซน์หรือฟังก์ชันที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและรับข้อเสนอ
  2. การรับฟังความคิดเห็น ใช้บรรจุภัณฑ์เป็นช่องทางในการรวบรวมความคิดเห็นของลูกค้า เช่น การใช้ QR Code บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าสามารถให้ข้อเสนอแนะหรือรีวิว

ตัวอย่างกิจกรรมการตลาด

  1. การตลาดออนไลน์ เช่น โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ เพื่อดึงดูดลูกค้า
  2. จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นการแสดงบรรจุภัณฑ์และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
  3. การทำกิจกรรมการตลาดร่วม โดยร่วมมือกับแบรนด์หรือผู้มีอิทธิพลในวงการอาหารเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ผ่านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์

การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์

การวิเคราะห์ยอดขายและส่วนแบ่งตลาด

  1. ติดตามยอดขายรายเดือนหรือรายปี เพื่อประเมินความนิยมของผลิตภัณฑ์
  2. วัดส่วนแบ่งตลาดของน้ำพริกทะเลแปรรูปเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด

การติดตาม ROI (Return on Investment)

  1. คำนวณ ROI ของแคมเปญการตลาด ทางโฆษณาออนไลน์, โปรโมชั่น, หรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย
  2. เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการตลาดกับรายได้ที่ได้รับ

การวิเคราะห์การเข้าถึงและการมีส่วนร่วม

  1. วัดอัตราการเข้าถึง วัดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และจำนวนผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย
  2. ติดตามระดับการมีส่วนร่วมของลูกค้า เช่น การกดไลค์, แชร์, และคอมเมนต์ในโพสต์โซเชียลมีเดีย

การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า

  1. ใช้แบบสอบถามเพื่อรวบรวมความคิดเห็นและความพึงพอใจจากลูกค้า
  2. วิเคราะห์รีวิวออนไลน์และข้อเสนอแนะจากลูกค้าเพื่อประเมินความพึงพอใจและการปรับปรุง

การวัดความสัมพันธ์กับลูกค้า

  1. คะแนน Net Promoter Score (NPS) ใช้ NPS เพื่อวัดความพร้อมของลูกค้าในการแนะนำแบรนด์ให้กับผู้อื่น
  2. ติดตามอัตราการกลับมาซื้อซ้ำจากลูกค้าปัจจุบัน ทำให้ลูกค้าเกิมความจงรักภักดีต่อแบรนด์

other Ideas