SCGP

จริงหรือเค้ก

Idea Tank
Team : smc

Member

Mrs Suchanya Tuengwiwat

Mr Korarit Decharat

Mrs Boonyita Chanmaung

เนื่องด้วยในยุคปัจจุบันอุตสาหกรรมทั่วโลกได้สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างทั่วไป อาทิเช่น ภาวะโลกร้อน การเสื่อมสภาพของดินจากสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตร ภาวการณ์ขาดแคลนน้ำในบางภูมิภาคของโลก ปัญหาการลดลงของสัตว์ทะเลหลากสายพันธุ์ อันมีเหตุมาจากการร้อนขึ้นของน้ำทะเลและปริมาณขยะในมหาสมุทร โดยส่วนใหญ่เกิดจากอุตสาหกรรมการอาหาร ไม่ว่าจะเป็นทั้งอาหารสด อาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป อาหารทะเล อาหารแช่แข็ง เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว รวมทั้งอุตสาหกรรมจำเภทอื่น เช่น สินค้าเพื่อการอุปโภค อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้าและสิ่งทอ เป็นต้น ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนสร้างมลพิษและขยะให้กับโลกทั้งสิ้น ทางเราจึงตระหนักและมีความคิดริเริ่มที่จุดเล็กๆ สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องซื้อและบริโภคในทุกวัน นั่นคืออาหาร อย่างไรก็ดีในส่วนของบรรจุภัณฑ์อาหารสดและอาหารปรุงสุกได้มีผู้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ง่ายเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่าเรากลับเล็งเห็นว่าอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคมักซื้ออยู่ทุกวันคือผลิตภัณฑ์กลุ่มเบเกอรีหรือขนมอบ เราจึงเลือกนำผลิตภัณฑ์กลุ่มเบเกอรีมาเป็นหมุดหมายในการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่รักษ์โลก จึงเกิดเป็นแบรนด์เบเกอรีที่มีขนมรสชาติดี บรรจุภัณฑ์สามารถให้ได้ทั้งความสวยงาม ความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคและรักษ์โลก ชื่อว่า “จริงหรือเค้ก” 

ชื่อผลิตภัณฑ์ “จริงหรือเค้ก” มาจากกระแสที่มีชื่อเสียงในแอปพลิเคชั่นติ๊กต็อกซึ่งเป็นการนำรูปแบบของรายการทีวีหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า “Is it cake?” มาทำในรูปแบบที่คล้ายคลึงกันในแอปพลิเคชั่น โดยเกิดจากการที่ผู้สร้างคลิปจะทำเค้กที่มีรูปร่างเหมือนกับสิ่งของสิ่งหนึ่งขึ้นมา และให้ผู้คนในโลกอินเตอร์เน็ตทายว่าสิ่งที่เห็นในวีดีโอนี้คือของจริงหรือเค้ก โดยจะพูดในรูปแบบที่กระชับกว่าว่า “Real or Cake” หรือในรูปแบบภาษาไทยคือ “จริงหรือเค้ก” ในหลายครั้งเค้กที่ทำขึ้นมานั้นเหมือนกับสิ่งของจริงเสียจนทำให้ผู้คนทึ่งในความสามารถของผู้โพสต์คลิปไปตามๆกัน จนกลายเป็นกระแสในโลกอินเตอร์เน็ตในที่สุด

ด้วยเหตุที่วลี “จริงหรือเค้ก” นั้นมีกระแสในโลกอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ทางเราจึงเลือกนำวลีนี้ให้มากลายเป็นชื่อแบรนด์เบเกอรีซึ่งจะเป็นที่จดจำได้ง่ายแก่ผู้คน

ทางเราได้ออกแบบคุณลักษณะบรรจุภัณฑ์ตามหลักการ SDGs หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ และหลักการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 5R เพื่อเป้าหมายในการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ดีและรักษาสิ่งแวดล้อมแทนการใช้บรรจุภัณฑ์บางชนิดซึ่งเป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก

การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจโดยทฤษฎี SWOT

            ทฤษฎีที่โด่งดังอย่าง SWOT มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รู้ถึงจุดแข็ง จุดอ่อน และสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆทั้งภายในและภายนอกขององค์กร ทางเราจึงได้นำทฤษฎีนี้มาปรับใช้ในการวางแผนและวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจของแบรนด์จริงหรือเค้ก

            S หรือ Strengths ( จุดแข็ง ) หมายถึง ปัจจัยต่างๆภายในองค์กรที่ทำให้เกิดเป็นข้อได้เปรียบขององค์กร เป็นข้อดีที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายใน เช่น จุดแข็งด้านการเงิน ด้านการผลิต ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านคุณภาพของสินค้า และจุดแข็งของแบรนด์จริงหรือเค้ก มีดังต่อไปนี้

            - แบรนด์จริงหรือเค้ก จะเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้มีจุดเน้นเด่นที่หน้าร้าน แต่ในทางกลับกันจะเน้นการขายเป็นให้ผู้บริโภคนำกลับไปทานที่บ้านหรือเน้นการขายทางออนไลน์และจัดส่งโดยวิธีเดลิเวอร์รี จุดประสงค์เพื่อการลดทนทุนในการออกแบบและสร้างหน้าร้านและส่งเสริมการขายตัวบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการนำเสนอควบคู่กันกับผลิตภัณฑ์เบเกอรี ในอีกนัยหนึ่งการไม่มีหน้าร้านยังช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศ นั้นหมายถึงเราสามารถช่วยโลกไปอีกหนึ่งระดับ

            - ผลิตภัณฑ์เบเกอรีและบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม มีประโยชน์หลากหลาย และรักษ์โลก คือสิ่งที่ทางแบรนด์มีความต้องการที่จะนำเสนอไปอย่างควบคู่กัน นอกจากผลิตภัณฑ์เบเกอรีของเราจะมีรสชาติที่ดีแล้ว ตัวบรรจุภัณฑ์ของเรานอกจะใช้ในการบรรจุขนมแล้วนั้น ยังสามารถนำมาใช้เป็นภาชนะในการรับประทานได้อีกด้วย และเมื่อรับประทานเสร็จแล้ว ตัวบรรจุภัณฑ์ของเราสามารถนำไปรีไซเคิลได้หรือในอีกหนึ่งทางเลือกเนื่องด้วยบรรจุภัณฑ์ทำมาจากกระดาษชานอ้อย จึงสามารถที่จะย่อยสลายได้ใน 180 วัน

            - ทางแบรนด์มีการตามกระแสสังคมและโลกโซเชียลอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการตลาดในสื่อออนไลน์ ผลิตภัณฑ์เบเกอรีแบบใดที่ได้รับความนิยม ณ ขณะนั้น หรือสถานการณ์ใดก็ตาม แต่ทั้งนี้การตามกระแสสังคมของทางแบรนด์จะยังคงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่รณรงค์และสนับสนุนให้ผู้คนในสังคมรักษ์โลกอยู่ดังเดิม

            W หรือ Weakness ( จุดอ่อน ) หมายถึง ปัจจัยต่างๆภายในองค์กรที่ทำให้เกิดความเสียเปรียบต่อคู่แข่งในท้องตลาด เป็นปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายในต่างๆของบริษัทประกอบการ จำต้องหาวิธีการปรับปรุงให้ดีขึ้น และจุดอ่อนของแบรนด์จริงหรือเค้ก มีดังต่อไปนี้

            - ประการที่หนึ่ง คือ แบรนด์จริงหรือเค้กเป็นแบรนด์เกิดใหม่ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้สังกัดหรือการดูแลของบริษัทใด จำต้องมีแผนวิถีการตลาดที่ดูน่าสนใจและดึงดูดผู้บริโภคได้ดี แน่นอนว่าในระยะแรกเริ่มต้องมีแผนการตลาดแบบเชิงรุกอย่างแน่นอน

            - ประการที่สอง คือ การเป็นแบรนด์ที่ไม่มีหน้าร้าน ในทางหนึ่งก็เป็นข้อดีดังที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น คือการลดต้นทุนและการสนับสนุนการรักษ์โลก แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ในโลกสมัยที่ผู้คนในสังคม

มีความต้องการใช้ co-working space การไม่มีหน้าร้านก็อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนด้านการตลาดของ

แบรนด์ได้เช่นกัน

            แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามทั้งการเป็นแบรนด์ที่เกิดใหม่หรือแบรนด์ที่ไม่มีหน้าร้านให้ผู้บริโภคได้

มี co-working space สำหรับการทำงาน ก็ย่อมสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยแผนการตลาดและการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ด้วยผลิตภัณฑ์เบเกอรีที่รสชาติดี บรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น มีประโยชน์ อีกทั้งยังรักษ์โลก ด้วยกระแสนิยมรักษ์โลกที่ช่วงนี้กำลังมาแรง ก็ไม่ยากมากนักที่จะเกาะติดตลาด

เบเกอรีได้

            O หรือ Opportunities ( โอกาส ) หมายถึง ปัจจัยต่างๆภายนอกองค์กรที่เอื้อประโยชน์ ซึ่งเป็นโอกาสที่ช่วยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เทคโนโลยีและการแข่งขันในตลาดสินค้าชนิดนั้นและสินค้าที่เกี่ยวข้อง จำต้องเสาะแสวงหาโอกาสที่เสมอเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสนั้นในการเพิ่มยิดขายและสร้างภาพลักษณ์ที่ขององค์กรต่อผู้บริโภคและสังคม

- ณ ช่วงตั้งแต่ปี 2024 หลังจากสถาการณ์โรคระบาดโควิดดีขึ้น ก็เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มจะออกมาใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้คนต้องการพื้นที่ทำงานนอกบ้าน แต่สถานที่ทำงานก็ไม่ใช่สำนักงานเช่นกัน จึงมีธุรกิจร้านคาเฟ่และเบเกอรีเกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคซึ่งต้องการ co-working space ในการทำงานอีกทั้งยังได้ดื่มกาแฟและกินเค้กเพื่อบรรเทาความเครียดจากงานได้อีกด้วย ส่งผลให้ธุรกิจร้านคาเฟ่และเบเกอรีได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงปี 2024 อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะโตบโตต่อไปในอนาคต เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานของผู้คนในปัจจุบันนิยมทำงานในพื้นที่ co-working space มากกว่าการทำงานที่บ้านหรือการทำงานในสำนักงาน

- ในช่วงเวลาของโลกาภิวัฒน์ผู้คนในสังคมมักนิยมตามกระแสในโลกสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม หรือติ๊กต็อก หากมีการตลาดที่น่าสนใจ ตามกระแสไวรัล หรือเชิญชวนให้ผู้คนมาทำคอนเทนต์กับทางแบรนด์ได้ ก็สามารถที่จะติดตลาดและสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้ไม่ยาก

T หรือ Threats ( อุปสรรค์ ) หมายถึง ปัจจัยต่างๆภายนอกองค์กรที่เป็นข้อจำกัดหรือสภาพแวดล้อมภายนอกที่ส่งผลเสียต่อธุรกิจ จำต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อขจัดอุปสรรคที่เกิดขึ้น

- ราคาปัจจัยการผลิต อาธิเช่น แป้ง น้ำตาล เนย ช็อกโกแลต เป็นต้น เป็นผลิตภัณฑ์ส่วนผสมที่มีราคาขึ้นลงตามกฎไกตลาดและเศรษฐกิจ ดังนั้นราคาผลิตภัณฑ์เบเกอรีของทางแบรนด์จริงหรือเค้กจึงอาจจะต้องมีการปรับขึ้นตามกลไลตลาดตามราคาผลิตภัณฑ์ตั้งต้น แต่อย่างไรก็ตามเราจะคำนึงถึงภาพลักษณ์ ความพึงพอใจของผู้บริโภค และการดำเนินงานกิจการของแบรนด์จริงหรือเค้กเป็นสำคัญ

- เนื่องด้วยธุรกิจเบเกอรี่อยู่ในช่วงมีกระแสและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทำให้มีผู้ประกอบการหลายรายเกิดขึ้น กลายเป็นกลุ่มตลาดที่มีคู่แข่งมากมายและหลากหลาย ดังนั้นทางแบรนด์จึงต้องมีการทำการตลาดและสร้างภาพจำของแบรนด์ที่ดีและเร็วให้ได้มากที่สุด

การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน

ทางแบรนด์จริงหรือเค้กมีการโฆษณาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ขนมอบและรู้ถึงประโยชน์และวิธีใช้บรรจุภัณฑ์ของเราอย่างถูกต้องและรักษ์โลก มีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพจำของทางแบรนด์ว่าเป็นแบรนด์ที่รักษ์โลก และมีกิจกรรมการรณรงค์ในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆอยู่เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมด้านป่าไม้ ด้านทะเล และด้านสภาพอากาศ เป็นต้น ทางเรามีความเชื่อมั่นในการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่รักษ์โลกและมีความตั้งใจที่จะให้ผู้คนในสังคมตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอันเป็นผลที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์

อีกทั้งทางแบรนด์ยังมีการทำงานที่เป็นระบบซึ่งต้องผ่านความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงจะมีการปล่อยผลิตภัณฑ์ขนมอบรูปแบบหรือรสชาติใหม่ บรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่พัฒนามากขึ้นออกมา ซึ่งเป็นการดีในระยะยาวที่ทุกคนภายในองค์กรจะรับรู้ทุกสิ่งอย่างเท่าเทียมกันและมีความสุขในการทำงานต่อไป

การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก

            ในสถานการณ์ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมรับประทานขนมหวานมากขึ้น อัตราการเติบโตในอุตสาหกรรมขนมหวานขึ้นมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน และอย่างที่สามารถเห็นได้ชัดในปัจจุบันผู้คนในสังคมหลายประเทศทั่วโลกมีการสนับสนุนแนวคิด Sustainable Development ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาเบื้องต้นส่งผลให้การสร้างแบรนด์ขนมอบและการสร้างบรรจุภัณฑ์มีความท้าทายมากขึ้นในทั้งสองด้าน ในเชิงของธุรกิจกลุ่มขนมหวานและเบเกอรีมีคู่แข่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในเชิงการออกแบบและสร้างบรรจุภัณฑ์ผู้ผลิตจำเป็นต้องคำนึกถึงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ด้วยยโยบายของทางรัฐและตามความต้องการ ความนิยมของผู้คนในสังคม

การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของทางแบรนด์คือกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานที่มีความชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ขนมอบ ที่สำคัญคือกลุ่มลูกค้าในยุคสมัยใหม่ที่ชีวิตต้องการความรีบเร่ง นิยมการนำกลับไปทานที่ทำงาน ที่บ้าน หรือเดลิเวอรี เช่น ร้าน Butterbear,SOURI,Nie & Ivan ที่เป็นเทรนด์ในปี2567 ทั้งนี้บรรจุภัณฑ์ของทางแบรนด์เอื้ออำนวยให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์ขนมอบได้ในทุกสถานที่ที่ผู้บริโภคต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องมีภาชนะหรือต้องทำความสะอาดภาชนะ อีกทั้งตัวบรรจุภัณฑ์ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้หรือสามารถย่อยสลายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

ในยุคปัจจุบันเจเนอเรชั่นใหม่มีการให้ความใส่ใจและสนใจด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นเมื่อทางแบรนด์มีการแสดงออกถึงการรักษ์โลก รณรงณ์และสนับสนุนให้สังคมเกิดการตระหนักถึง Sustainable Development ผู้คนจะให้ความสนใจกับทางแบรนด์ที่รักษ์โลกมากเป็นพิเศษมากกว่าแบรนด์อื่นที่เป็นบรรจุภัณฑ์แบบทั่วไปและไม่แสดงให้เห็นถึงการรณรงณ์สีเขียว

การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์

กล่องขนมเค้กเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกซึ่งสามารถประยุกต์ใช้เป็นภาชนะได้ โดยตัวบรรจุภัณฑ์ทำมาจากกระดาษอ้อย จึงสามารถที่จะย่อยสลายได้ง่ายหรือนำไปรีไซเคิลได้ และในกรณีที่ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบายในการรับประทานขณะอยู่ภายนอกบ้านหรือไม่สะดวกในการทำความสะอาดภาชนะที่บ้าน ตัวบรรจุภัณฑ์มีรอยปรุซึ่งผู้บริโภคสามารถแกะบรรจุภัณฑ์ส่วนนั้นประยุกต์กลายมาเป็นภาชนะได้

ตามที่ได้กล่าวไปในเบื้องต้นแบรนด์จริงหรือเค้กมีจุดเด่นอยู่ที่นอกจาการที่ผลิตภัณฑ์เบเกอรีจะมีรสชาติที่ดีแล้วนั้น บรรจุภัณฑ์ของเราคืออีกหนึ่งสิ่งที่ทางเรามีความต้องการที่ให้กลายเป็นภาพลักษณ์และภาพจำต่อองค์กร ด้วยการเป็นแบรนด์เบเกอรีที่สนับสนุนการอนุรักษ์โลกตามหลัก 5R และตามหลักการ SDGs ดังนั้นเราจะนำจุดนี้กลายมาเป็นจุดดึงดูดผู้บริโภค

การสร้างแบรนด์เบเกอรีที่สอดคล้องตามหลัก 5R และตามหลักการ SDGs คือเป้าหมายที่เราต้องการจะทำให้สำเร็จ โดยมีการตั้งเป้ายหมายไว้ดังนี้

เป้าหมายที่สอดคล้องกับ 5R คือ Reduce Recycle ซึ่งเชื่อมโยงกับการลดการใช้พลาสติกในการเป็นบรรจุภัณฑ์และภาชนะในการรับประทานขนมในแต่ละครั้ง และหลังการใช้งานบรรจุภัณฑ์และภาชนะแล้วนั้น ผู้บริโภคยังสามารถนำบรรจุภัณฑ์และภาชนะแยกเข้าสู่ขยะรีไซเคิลเพื่อส่งมอบให้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลในลำดับต่อไปได้

เป้าหมายที่สอดคล้องกับหลักการ SDGs โดยเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ 9 เป้าหมายที่ 14 และเป้าหมายที่ 15 รายละเอียดดังนี้

-  เป้าหมายที่ 9 สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืนและส่งเสริมนวัตกรรม

- เป้าหมายที่ 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลและยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

- เป้าหมายที่ 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกและยั่งยืน จัดการป่าไม้ยั่งยืน ต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ

เนื่องจากเป้าหมายและจุดประสงค์หลักทางแบรนด์จริงหรือเค้ก คือการทำบรรจุภัณฑ์ที่รักโลก สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ทางคณะผู้บริหารจึงเลือกใช้ กระดาษคราฟท์ สีเหลืองทอง KC

ซึ่งกระดาษคราฟท์ KC มีสีผิวเหลืองทอง เป็นกระดาษท์ที่มีความหลากหลายในการใช้งาน มีความสามารถกันความชื้นได้ ทั้งยังสามารถนำเข้าห้องเย็นได้ นิยมใช้งานกับพัสดุทั่วไป ทั้งอุปโภคและบริโภค หรือ กระดาษคราฟท์ สีเหลืองอ่อนธรรมชาติ KII

กระดาษคราฟท์ KII มีสีผิวเหลืองอ่อนธรรมชาติ เป็นกระดาษอีกชิ้นที่เหมาะแก่การใส่พัสดุชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย เนื่องจากมีความแข็งแรงไม่มากนัก แต่สามารถป้องกันความชื้นได้ ทั้งยังสามารถเก็บไว้ในห้องเย็นได้อีก นอกจากนี้ยังเป็นกระดาษที่มีราคาค่อนข้างถูก จึงช่วยให้ลดต้นทุนการสั่งซื้อได้อีกด้วย

กระดาษคราฟท์ใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติอีกด้วย ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาสามารถนำมารีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้อีกด้วย

และนี่คือบรรจุภัณฑ์กล่องใส่เค้กที่ทางกลุ่มSMC คิดขึ้นมา โดยคำนึงถึงการใช้วัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค โดยมีจุดเด่นของแบรนด์ ที่สร้างความแตกต่างจากบรรจุภัณฑ์กล่องใส่เค้กธรรมดาทั่วไปตรงที่ สามารถนำตัวกล่อง มาใช้ต่อเป็นช้อนได้ และมีที่หิ้วสำหรับถือเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย

กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์

การแข่งขันทางการตลาดในยุคปัจจุบันมีจุดเด่นคือการสร้างชื่อ สร้างภาพจำ สร้างเอกลักษณ์เป็นสำคัญ ตามหลักการของการสื่อสารแบบบูรณาการ ( IMC-Integrated Marketing Communication ) อีกทั้งการที่ทางแบรนด์มีการออกแบบและสร้างบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพยังเป็นการช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์จริงหรือเค้ก คือ การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตตัวบรรจุภัณฑ์ โดยการใช้บรรจุภัณฑ์เป็นกล่องกระดาษที่ทำมาจากไม้สนหรือชานอ้อย อีกทั้งยังไม่เป็นเพียงบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากวัสดุรักษ์โลก แต่ทางแบรนด์ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือ การที่บรรจุภัณฑ์สามารถประยุกต์จากกล่องกระดาษธรรมดาใช้แล้วทิ้ง กลายมาเป็นภาชนะและช้อนสำหรับการรับประทานได้ เพื่อความสะดวกของผู้บริโภค และเมื่อใช้งานเสร็จแล้วยังสามารถนำไปทิ้งหรือรีไซเคิลได้ หากนำไปทิ้งตัวบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกล่องกระดาษสามารถย่อยสลายได้อย่างรวดเร็วใน 60 วัน ซึ่งสอดคล้องกับ Reduce-Reuse-Recycle โดยการลดการใช้พลาสติกซึ่งสามารถย่อยสลายได้ยาก การที่สามารถนำบรรจุภัณฑ์มาใช้ให้กลายเป็นภาชนะได้ และการที่สามารถนำบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิลได้ และหนึ่งในกิจกรรมทางการตลาดที่ทางแบรนด์ใช้ทำการโฆษณา คือ การที่ทางแบรนด์ทำแคมเปญให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งคือประชาชนทั่วไปได้ร่วมออกแบบลวดลายบนตัวบรรจุภัณฑ์ตามความนิยมชอบของตนเอง จากนั้นอัปโหลดลงในแพลตฟอร์ม TikTok พร้อมติดแฮชแท็ก “จริงหรือเค้ก”

การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์

จริงหรือเค้ก จะวัดผลทางการตลาดของแบรนด์จากรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ผลการตลาดของแบรนด์ออกมาได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งจะวัดจาก

1. ยอดขายรวมของผลิตภัณฑ์

2. ยอดขายที่เป็นผลมาจากการตลาด

3. จำนวนการเยี่ยมชมของผู้บริโภค ผ่านร้านค้าออนไลน์

4. จำนวนผลการตอบรับหรือคนที่เข้าร่วมแคมเปญจากการตลาด

5. คำสั่งซื้อที่เป็นผลมาจตากการตลาด

6. จำนวนของบุคคลที่ให้การตอบรับกับทางผลิตภัณฑ์

other Ideas