Market Situation 

ปัญหาขยะโดยเฉพาะขยะพลาสติกกลายเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ขยะเหล่านี้ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดมลพิษทางดินและน้ำเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการเร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย กระบวนการย่อยสลายของขยะพลาสติกปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกชนิดหนึ่งที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนได้สูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า นอกจากนี้ กระบวนการผลิตพลาสติกเองก็ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเป็นจำนวนมากเช่นกันเพื่อรับมือกับวิกฤตขยะและภาวะโลกร้อน ปัญหาขยะพลาสติกเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าประเทศไทยมีการผลิตขยะมูลฝอยเฉลี่ยวันละ 26.95 ล้านตัน โดยขยะพลาสติกเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษทางทะเลและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ นอกจากนี้ ภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติบ่อยครั้งขึ้น เช่น อุทกภัยและภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ  และจากรายงานของ Tetra Pak พบว่า 83% ของผู้บริโภคทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับมลพิษและขยะพลาสติกในมหาสมุทร และ 78% กังวลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน 

โดยจากการสำรวจของฮาคูโฮโด อาเซียน พบว่าผู้บริโภคไทยกว่า 86% ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และ 80% ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผู้บริโภค 81% เต็มใจที่จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อสินค้าที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคไทย

สถานการณ์ตลาดบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผลักดันโดยความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้บริโภคไทยถึง 86% และความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยที่มีนโยบายห้ามนำเข้าเศษพลาสติกและมีเป้าหมายที่จะรีไซเคิลขยะได้ 100% ภายในปี 2570 และเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของไทยเองมีมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้านบาทในปี 2566 และคาดว่าจะเติบโตอีก 10% ในปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น.

PESTE 

Political

1. นโยบายควบคุมการใช้พลาสติก ประเทศไทยมีแผนห้ามนำเข้าเศษพลาสติกภายในปี 2568 และมีโรดแมปในการจัดการขยะพลาสติก โดยตั้งเป้าที่จะรีไซเคิลขยะได้ 100% ภายในปี 2570 โดยกฎระเบียบเหล่านี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์พลาสติกหลายประเภท ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลาสติกของไทยกำลังปรับตัวตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้นทั่วโลก โดยหันมาให้ความสำคัญกับพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและลดการใช้พลาสติก
2. วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเกษตรและอาหารของโลกรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก (Agriculture and Food Hub) ตามวิสัยทัศน์ 1 ใน 8 IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง (สำนักงานประชาสัมพันธ์ปทุมธานี, 2024)
3. รัฐบาลผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่รูปแบบใหม่ BCG Model ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ  โดยเป็นแนวคิดการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curves) ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมพลังงานและวัสดุ อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ (สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, 2022)

Economic 

1. อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของไทยนั้น ในปี2566 มีมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้านบาท ส่วนปี 2567 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มกว่า 10% หรือประมาณ 3.85 แสนล้านบาท (อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย, 2024)
2. รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก (Agriculture and Food Hub) ตามวิสัยทัศน์ 1 ใน 8 IGNITE THAILAND จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง

Social 

1. เทรนด์รักษ์โลกมาแรง “พาณิชย์” ดัน SME ผลิตสินค้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เดินหน้าส่งเสริม สนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย ผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อให้การส่งออกสินค้าไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
2. รายงานการวิจัยจากศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน ได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่นและไทยในช่องทางออนไลน์ จำนวน 4,500 คน ทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 20-49 ปี พบว่า 86% ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเอามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง และมี 80% ที่ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ผู้บริโภค 81% เต็มใจที่จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อสินค้าที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อม (digimusketeers, )
3. ความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคมองหาสินค้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอน (ourgreenfish, 2024) 

Technology 

1. PackBack Project…เก็บกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อวันที่ยั่งยืน" เครื่องมือ EPR ในการจัดการกับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วประเภทต่างๆ ทั้งแก้ว กระดาษ และพลาสติกโดยได้รับการสนับสนุนจากlหลายภาคส่วน EPR เป็นหลักการที่ขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตในทุกช่วงของวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่การออกแบบ กระจายสินค้า​ การรับคืน การเก็บรวบรวม การใช้ซ้ำ การนำกลับมาใช้ใหม่ และการบำบัด 

Environment 

1. องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ยืนยันว่า ปี 2566 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิพื้นผิวโลกเฉลี่ยสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.45 องศาเซลเซียส (มีความคลาดเคลื่อน +/- 0.12 องศาเซลเซียส) นอกจากนี้ ทศวรรษที่ผ่านมา (2556-2566) ยังเป็นทศวรรษที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา (WMO, 2024) จากรายงานสถานการณ์ขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทยปี 2566 พบว่าประเทศไทยมีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นประมาณ 26.95 ล้านตัน หรือประมาณ 73,840 ตัน/วัน การจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม ทำให้ขยะเหล่านี้รั่วไหลลงสู่ทะเล และขยะพลาสติกเหล่านี้ทำให้เกิดไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำ กลายเป็นมลพิษทางทะเล 
2. จากรายงานสถานการณ์ขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทยปี 2566 พบว่าประเทศไทยมีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นประมาณ 26.95 ล้านตัน หรือประมาณ 73,840 ตัน/วัน เฉลี่ยเท่ากับ 1.12 กิโลกรัม/คน/วัน เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรตามทะเบียนราษฎร์ปี พ.ศ.2566 ทั้งนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณร้อยละ 5 ที่มีปริมาณขยะมูลฝอย 25.70 ล้านตัน การจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม ทำให้ขยะเหล่านี้รั่วไหลลงสู่ทะเล และขยะพลาสติกเหล่านี้ทำให้เกิดไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำ กลายเป็นมลพิษทางทะเลและส่งผลต่อระบบนิเวศน์และสิ่งมีชีวิตในน้ำ..งานวิจัยสำรวจนานาชาติหลายชิ้นมีการระบุว่าประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่มีขยะรั่วไหลลงทะเลมากที่สุด 
3. สถานการณ์ขยะพลาสติกใน พ.ศ. 2565 มีขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastics) เช่น ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงหูหิ้ว แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก กล่องโมบรรจุอาหาร ปริมาณ 2.83 ล้านต้น คิดเป็นร้อยละ 11ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งการจัดการขยะพลาสติกที่ผ่านมายังมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานซึ่งยังไม่มีกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับเพื่อใช้ในการลด ควบคุม ป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์พลาสติกหลากหลายวัสดุโดยไม่ได้คำนึงถึงการนำกลับมาใช้ประโยชน์ ทำให้เกิดขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นทุกปีความตระหนักและความร่วมมือของประชาชนในการลด เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวยังมีน้อย มีการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกมากเกินความจำเป็น

เป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์

" RUBYTHICHA เรามุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เคียงข้างทุกคนสู่อนาคตที่ยั่งยืน" 

เป้าหมายหลักของเราคือการเป็นผู้นำแบรนด์น้ำดื่มด้านบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณขยะพลาสติกและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนของสังคม

เป้าหมายทางธุรกิจ

1. สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์: สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
2. สร้างความแตกต่าง: สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
3. ขยายฐานลูกค้า: ขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

เป้าหมายทางสังคม

1. ลดปริมาณขยะ: ลดปริมาณขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ลง 60% ภายใน 5ปี
2. สร้างเครือข่ายการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมครอบคลุม 10 จังหวัดทั่วประเทศ ภายในปี 2028
3. ลดการใช้พลาสติก 20% ภายใน 5ปี
4. บริจาคเงิน 1% ของกำไรสุทธิให้กับองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและรายละเอียด insight 

จากการสำรวจผู้ที่ดื่มน้ำแบบแพ็คเป็นประจำพบว่า มีผูัใช้พบปัญหาในการจัดการขวดน้ำในที่พักคือ

1.ที่สำหรับเก็บขวดน้ำมีไม่เพียงพอ

2.ไม่มีที่ในการแยกขวดน้ำ

3.ขวดน้ำไม่เป็นระเบียบ รกห้อง

และผู้ใช้น้ำแบบแพ็คยังมีความต้องการให้มีการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง สิ่งดังต่อไปนี้เพิ่มเติม

1.อยากให้แพ็คน้ำสามารถที่จะเก็บขวดน้ำที่ดื่มเสร็จแล้วกลับคืนได้ เพื่อความเป็นระเบียบ และความสะดวก

2.ต้องการให้แพ็คน้ำมีรูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไปจากแบรนด์อื่นๆ มีความน่าสนใจ และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

3.ต้องการให้เลิกการใช้ฟิล์มหุ้มพลาสติกเพื่อเป็นการลดขยะจากพลาสติก

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์

เริ่มตั้งแต่การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ขวดน้ำให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% วัสดุของแพ็คน้ำสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ การจัดเก็บบรรจุภัณฑ์เพื่อนำกลับมารีไซเคิลในปริมาณเทียบเท่ากับจำนวนบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายออกสู่ตลาดภายในปี 2035 ผ่านความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ และองค์กรต่างๆ ในด้านการรีไซเคิล ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจแก่ผู้บริโภคในด้านการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง มีการนำหลัก3RS มาใช้กับบรรจุภัณฑ์ คือ

Reduce ลดการใช้พลาสติกในการทำบรรจุภัณฑ์ เปลี่ยนมาใช้กระดาษลูกฟูกในการทำบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ 100% 

Reuse การใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น เราพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถใช้ซ้ำแล้วใช้ซ้ำอีก โดยบรรจุภัณฑ์ของเมื่อดื่มน้ำจนหมดแล้วสามารถนำขวดเหล่านั้นมาเก็บใส่กล่องบรรจุภัณฑ์แพ็คน้ำไว้ได้ เพื่อลดการเกิดขยะ ง่ายต่อการแยกขยะ และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้

Recycle การใช้กระดาษลูกฟูกในการทำบรรจุภัณฑ์แพ็คน้ำ กระดาษลูกฟูกสามารถนำกลับเข้าสู้ประบวนการผลิตใหม่ได้ จึงสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ต่อได้อีก ลดปัญหาขยะที่จะเกิดขึ้นแทนการใช้ฟิล์มพลาสติก

ขวดพลาสติกPET สามารถนำมาทำเป็นเสื้อใยสังเคราห์

กิจกรรมการตลาดและการพัฒนาแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์

กิจกรรมที่1  Love At First Sight รักษ์แรกพบ

จุดประสงค์ :  

1. สร้างการมองเห็นทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
2. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
3. กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การลดการใช้พลาสติก การรีไซเคิล และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รายละเอียด :  สร้างคอนเทนต์ ภาพยนตร์สั้น เกี่ยวกับแบรนด์น้ำดื่ม RUBYTHICHA ใน Concept “Love At First Sight” ให้เราเป็นรักษ์แรกพบ บอกเล่าเกี่ยวกับการตกหลุมรักแรกพบ ของการเป็นแพ็คน้ำรูปแบบใหม่ แพ็คน้ำลังกระดาษที่สามารถช่วยให้การใช้ชีวิต ง่ายขึ้น กรีนขึ้น ใหม่ขึ้น  ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Youtube TikTok Facebook เว็บไซต์ บอกเล่าเรื่องราว ของแบรนด์ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแวดล้อม

การวัดผล : 

YouTube: มีจำนวนครั้งผู้เข้าชม 500,000 ครั้ง ยอดไลค์ 40,000

Tiktok: 

Video Completions: จำนวนครั้งที่ผู้ชมดูวิดีโอจนจบ 1ล้าน ครั้ง

Click-Through Rate (CTR): อัตราการคลิกเข้าไปยังโปรไฟล์หรือเว็บไซต์ มากกว่า 80%

Engagement Rate:  การกดไลค์ 200,000 คอมเมนต์ 2,500 แชร์ 10,000

Facebook

1. Reach: จำนวนผู้คนที่เห็นโฆษณา มากกว่า 1 ล้าน
2. Click-Through Rate (CTR): อัตราการคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page มากกว่า 80%

กิจกรรมที่ 2 รักษ์แลกยิ้ม

จุดประสงค์: 

1. สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

1. เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก การนำขวด PET ที่ใช้แล้วกลับมารีไซเคิล ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ลดปัญหาขยะล้นเมือง 
2. กระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดแยกขวดน้ำ สร้างจิตสำนึก เพื่อนำมารีไซเคิล

รายละเอียด :

สร้างจุดรับทิ้งขวดน้ำดื่มRUBYTHICHA ที่ไม่ใช้แล้วตามสถานที่หอพักนักศึกษา หน้าร้านสะดวกซื้อ หรือในชุมชน จากนั้นนำขวดน้ำพลาสติกกลับมารีไซเคิล โดยนำมาทำเป็นเสื้อผ้า ที่ผลิดจากขวดพลาสติก PET ซึ่งเสื้อแบบเนื้อผิวสัมผัสCotton จะมีส่วนผสมของขวด 8 ขวดต่อตัว ส่วนเสื้อแบบเนื้อกีฬาหรือผ้าโพลีเอสเตอร์ มีส่วนผสม 20 ขวดต่อตัว แล้วนำเสื้อที่ได้จากการรีไซเคิลไปบริจาคให้มูลนิธิต่าง ๆ เช่น มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านนกขมิ้น มูลนิธิสวนนกแก้ว ศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ  หรือ การเปลี่ยนขยะให้เป็นบุญ เพื่อนำมาทำผ้าไตรหรือผ้าบังสกุลจีวรที่วัดจากแดง 

การวัดผล : มียอดจำนวนขวดน้ำดื่มที่ได้จากการรับแล้วนำมารีไซเคิลมากกว่า 100,000 ขวด และทำแบบสำรวจเพื่อดูว่าพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างหลังจากทำแคมเปญ