พานทอง

Team : KAENGREEN TEENERGY
Member
Mr Ekkaphon Rinthon
1.วิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธรุกิจ
Market Situation
ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ประชาชนหันมารักษ์โลกมากขึ้น ทางด้านของรัฐบาลก็มีนโยบายที่ผลักดันนโยบาลและข้อบังคับต่างๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทางดานของธุรกิจเองก็หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อตอบสนองนดยบาลและข้อบังคับ และเพื่อเป้าหมายสุ่ตวามยั่งยืนทางธุรกิจ
โดยกลุ่มคนในรุ่น Gen Z และ Millennials คือ คนที่เกิดในปี 1980-2012 โดยช่วงเวลาที่คนกลุ่มนี้เติบโต เป็นยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมมีความรุนแรงขึ้น และมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลก คนกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งหรือลูกหลานที่คนกลุ่มนี้รักจะยังมีชีวิตอยู่ถึงปีที่นานาประเทศประกาศจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์ต่าง ๆ หล่อหลอมให้คนในรุ่นนี้เป็นกลุ่มที่มีจิตสำนึกทางสังคมสูง
จากผลสำรวจพบกว่า 81% ของ Millennials ในประเทศไทย เชื่อว่าธุรกิจมีหน้าที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และ 73% ของ Gen Z ยินดีจ่ายเงินที่มากกว่าสำหรับสินค้าและธุรกิจที่สนับสนุนความยั่งยืน โดยคนกลุ่มนี้ยังเป็นประชากรที่มากที่สุดของโลกที่อยู่ในวัยทำงานและมีอำนาจในการตัดสินใจมีกำลังในการซื้อ (ฐานเศรษฐกิจ,2567)
คาดว่าขนาดตลาดเครื่องครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารของประเทศไทยจะสูงถึง 2.09 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2026 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 8.2% การเติบโตของช่องทางการขายออนไลน์ส่งผลให้ความต้องการเครื่องครัวและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปยังส่งผลให้การบริโภคอุปกรณ์และเครื่องใช้ในครัวเพิ่มขึ้น (6Wresearch,2566)
PESTEL
1. Political (การเมือง)
- นโยบายรัฐบาลและการส่งเสริมอุตสาหกรรม: รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเซรามิกและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร(Tablaware) โดยเฉพาะการส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่นในด้านการผลิตและการส่งออก ทำให้ธุรกิจจานชามได้รับประโยชน์จากการลดภาษีหรือการสนับสนุนทางการเงินต่างๆ
- ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ: การเป็นสมาชิกของกลุ่มการค้าเสรี (FTA) เช่น ASEAN ช่วยให้การส่งออกจานชามจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคอื่นๆ ทำได้ง่ายขึ้น ลดต้นทุนภาษีนำเข้าและภาษีส่งออก
2. Economic (เศรษฐกิจ)
- การเติบโตของเศรษฐกิจในครัวเรือน: เศรษฐกิจครัวเรือนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีรายได้มากขึ้นและมีแนวโน้มในการใช้เงินซื้อของใช้ในบ้าน เช่น จานชาม เพิ่มมากขึ้น
- ราคาต้นทุนวัตถุดิบ เชื้อเพลิงและแรงงานมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเซรามิคมีต้นทุนการผลิตที่แพงขึ้น
3. Social (สังคม)
- แนวโน้มการบริโภคภายในบ้าน: ในช่วงปีที่ผ่านมา การระบาดของโควิด-19 ทำให้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำอาหารและจัดงานเล็กๆ ในบ้านเองมากขึ้น ทำให้ความต้องการจานชามเพิ่มขึ้น
- ความชอบในดีไซน์และสไตล์: ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสวยงามและการออกแบบของจานชาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารภายในบ้าน ดีไซน์ที่ทันสมัยและใช้งานได้หลากหลายจะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาวและคนวัยทำงานมากขึ้น
- การใส่ใจสุขภาพ: ผู้บริโภคสนใจในวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น จานชามที่ปราศจากสารอันตรายหรือใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ทางธรรมชาติ
4. Technological (เทคโนโลยี)
- เทคโนโลยีการผลิต: การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการผลิตจานชาม เช่น การขึ้นรูป การเคลือบ และการออกแบบ ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพสินค้าได้
- การพัฒนาวัสดุ: มีการวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ๆ สำหรับจานชาม เช่น วัสดุที่ย่อยสลายได้และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือวัสดุที่ทนความร้อนและมีความคงทน ทำให้สินค้าแข็งแรงขึ้นและมีอายุการใช้งานนานขึ้น
- การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์: การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ช่วยให้การขายและการตลาดของจานชามในประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
5. Environmental (สิ่งแวดล้อม)
- การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคและธุรกิจในปัจจุบันมีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระดาษหรือเซรามิกที่ไม่ทิ้งสารเคมี จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- การจัดการของเสียจากการผลิต: โรงงานผลิตจานชามจำเป็นต้องคำนึงถึงการลดของเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการลดการใช้น้ำและพลังงานในการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยเพื่อความเชื่อถือของผู้บริโภคได้
6. Legal (กฎหมาย)
- พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 การกำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) ธุจกิจจะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุถึงจะได้รับความเชื่อถือกับผู้บริโภค
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม: การผลิตจานชามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการขยะที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
- นโยบายรัฐบาลและการส่งเสริมอุตสาหกรรม: รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเซรามิกและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร(Tablaware) โดยเฉพาะการส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่นในด้านการผลิตและการส่งออก ทำให้ธุรกิจจานชามได้รับประโยชน์จากการลดภาษีหรือการสนับสนุนทางการเงินต่างๆ
- ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ: การเป็นสมาชิกของกลุ่มการค้าเสรี (FTA) เช่น ASEAN ช่วยให้การส่งออกจานชามจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคอื่นๆ ทำได้ง่ายขึ้น ลดต้นทุนภาษีนำเข้าและภาษีส่งออก
2. Economic (เศรษฐกิจ)
- การเติบโตของเศรษฐกิจในครัวเรือน: เศรษฐกิจครัวเรือนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีรายได้มากขึ้นและมีแนวโน้มในการใช้เงินซื้อของใช้ในบ้าน เช่น จานชาม เพิ่มมากขึ้น
- ราคาต้นทุนวัตถุดิบ เชื้อเพลิงและแรงงานมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเซรามิคมีต้นทุนการผลิตที่แพงขึ้น
3. Social (สังคม)
- แนวโน้มการบริโภคภายในบ้าน: ในช่วงปีที่ผ่านมา การระบาดของโควิด-19 ทำให้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำอาหารและจัดงานเล็กๆ ในบ้านเองมากขึ้น ทำให้ความต้องการจานชามเพิ่มขึ้น
- ความชอบในดีไซน์และสไตล์: ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสวยงามและการออกแบบของจานชาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารภายในบ้าน ดีไซน์ที่ทันสมัยและใช้งานได้หลากหลายจะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาวและคนวัยทำงานมากขึ้น
- การใส่ใจสุขภาพ: ผู้บริโภคสนใจในวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น จานชามที่ปราศจากสารอันตรายหรือใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ทางธรรมชาติ
4. Technological (เทคโนโลยี)
- เทคโนโลยีการผลิต: การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการผลิตจานชาม เช่น การขึ้นรูป การเคลือบ และการออกแบบ ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพสินค้าได้
- การพัฒนาวัสดุ: มีการวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ๆ สำหรับจานชาม เช่น วัสดุที่ย่อยสลายได้และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือวัสดุที่ทนความร้อนและมีความคงทน ทำให้สินค้าแข็งแรงขึ้นและมีอายุการใช้งานนานขึ้น
- การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์: การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ช่วยให้การขายและการตลาดของจานชามในประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
5. Environmental (สิ่งแวดล้อม)
- การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคและธุรกิจในปัจจุบันมีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระดาษหรือเซรามิกที่ไม่ทิ้งสารเคมี จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- การจัดการของเสียจากการผลิต: โรงงานผลิตจานชามจำเป็นต้องคำนึงถึงการลดของเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการลดการใช้น้ำและพลังงานในการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยเพื่อความเชื่อถือของผู้บริโภคได้
6. Legal (กฎหมาย)
- พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 การกำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) ธุจกิจจะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุถึงจะได้รับความเชื่อถือกับผู้บริโภค
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม: การผลิตจานชามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการขยะที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
- การเติบโตของเศรษฐกิจในครัวเรือน: เศรษฐกิจครัวเรือนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีรายได้มากขึ้นและมีแนวโน้มในการใช้เงินซื้อของใช้ในบ้าน เช่น จานชาม เพิ่มมากขึ้น
- ราคาต้นทุนวัตถุดิบ เชื้อเพลิงและแรงงานมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเซรามิคมีต้นทุนการผลิตที่แพงขึ้น
3. Social (สังคม)
- แนวโน้มการบริโภคภายในบ้าน: ในช่วงปีที่ผ่านมา การระบาดของโควิด-19 ทำให้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำอาหารและจัดงานเล็กๆ ในบ้านเองมากขึ้น ทำให้ความต้องการจานชามเพิ่มขึ้น
- ความชอบในดีไซน์และสไตล์: ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสวยงามและการออกแบบของจานชาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารภายในบ้าน ดีไซน์ที่ทันสมัยและใช้งานได้หลากหลายจะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาวและคนวัยทำงานมากขึ้น
- การใส่ใจสุขภาพ: ผู้บริโภคสนใจในวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น จานชามที่ปราศจากสารอันตรายหรือใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ทางธรรมชาติ
4. Technological (เทคโนโลยี)
- เทคโนโลยีการผลิต: การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการผลิตจานชาม เช่น การขึ้นรูป การเคลือบ และการออกแบบ ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพสินค้าได้
- การพัฒนาวัสดุ: มีการวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ๆ สำหรับจานชาม เช่น วัสดุที่ย่อยสลายได้และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือวัสดุที่ทนความร้อนและมีความคงทน ทำให้สินค้าแข็งแรงขึ้นและมีอายุการใช้งานนานขึ้น
- การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์: การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ช่วยให้การขายและการตลาดของจานชามในประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
5. Environmental (สิ่งแวดล้อม)
- การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคและธุรกิจในปัจจุบันมีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระดาษหรือเซรามิกที่ไม่ทิ้งสารเคมี จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- การจัดการของเสียจากการผลิต: โรงงานผลิตจานชามจำเป็นต้องคำนึงถึงการลดของเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการลดการใช้น้ำและพลังงานในการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยเพื่อความเชื่อถือของผู้บริโภคได้
6. Legal (กฎหมาย)
- พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 การกำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) ธุจกิจจะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุถึงจะได้รับความเชื่อถือกับผู้บริโภค
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม: การผลิตจานชามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการขยะที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
- แนวโน้มการบริโภคภายในบ้าน: ในช่วงปีที่ผ่านมา การระบาดของโควิด-19 ทำให้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำอาหารและจัดงานเล็กๆ ในบ้านเองมากขึ้น ทำให้ความต้องการจานชามเพิ่มขึ้น
- ความชอบในดีไซน์และสไตล์: ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสวยงามและการออกแบบของจานชาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารภายในบ้าน ดีไซน์ที่ทันสมัยและใช้งานได้หลากหลายจะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาวและคนวัยทำงานมากขึ้น
- การใส่ใจสุขภาพ: ผู้บริโภคสนใจในวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น จานชามที่ปราศจากสารอันตรายหรือใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ทางธรรมชาติ
4. Technological (เทคโนโลยี)
- เทคโนโลยีการผลิต: การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการผลิตจานชาม เช่น การขึ้นรูป การเคลือบ และการออกแบบ ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพสินค้าได้
- การพัฒนาวัสดุ: มีการวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ๆ สำหรับจานชาม เช่น วัสดุที่ย่อยสลายได้และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือวัสดุที่ทนความร้อนและมีความคงทน ทำให้สินค้าแข็งแรงขึ้นและมีอายุการใช้งานนานขึ้น
- การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์: การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ช่วยให้การขายและการตลาดของจานชามในประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
5. Environmental (สิ่งแวดล้อม)
- การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคและธุรกิจในปัจจุบันมีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระดาษหรือเซรามิกที่ไม่ทิ้งสารเคมี จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- การจัดการของเสียจากการผลิต: โรงงานผลิตจานชามจำเป็นต้องคำนึงถึงการลดของเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการลดการใช้น้ำและพลังงานในการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยเพื่อความเชื่อถือของผู้บริโภคได้
6. Legal (กฎหมาย)
- พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 การกำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) ธุจกิจจะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุถึงจะได้รับความเชื่อถือกับผู้บริโภค
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม: การผลิตจานชามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการขยะที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
- เทคโนโลยีการผลิต: การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการผลิตจานชาม เช่น การขึ้นรูป การเคลือบ และการออกแบบ ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพสินค้าได้
- การพัฒนาวัสดุ: มีการวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ๆ สำหรับจานชาม เช่น วัสดุที่ย่อยสลายได้และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม หรือวัสดุที่ทนความร้อนและมีความคงทน ทำให้สินค้าแข็งแรงขึ้นและมีอายุการใช้งานนานขึ้น
- การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์: การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ช่วยให้การขายและการตลาดของจานชามในประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
5. Environmental (สิ่งแวดล้อม)
- การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคและธุรกิจในปัจจุบันมีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระดาษหรือเซรามิกที่ไม่ทิ้งสารเคมี จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- การจัดการของเสียจากการผลิต: โรงงานผลิตจานชามจำเป็นต้องคำนึงถึงการลดของเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการลดการใช้น้ำและพลังงานในการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยเพื่อความเชื่อถือของผู้บริโภคได้
6. Legal (กฎหมาย)
- พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 การกำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) ธุจกิจจะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุถึงจะได้รับความเชื่อถือกับผู้บริโภค
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม: การผลิตจานชามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการขยะที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
- การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคและธุรกิจในปัจจุบันมีความใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระดาษหรือเซรามิกที่ไม่ทิ้งสารเคมี จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
- การจัดการของเสียจากการผลิต: โรงงานผลิตจานชามจำเป็นต้องคำนึงถึงการลดของเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการลดการใช้น้ำและพลังงานในการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยเพื่อความเชื่อถือของผู้บริโภคได้
6. Legal (กฎหมาย)
- พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 การกำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) ธุจกิจจะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุถึงจะได้รับความเชื่อถือกับผู้บริโภค
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม: การผลิตจานชามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการขยะที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
- พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 การกำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) ธุจกิจจะต้องผ่านมาตรฐานที่ระบุถึงจะได้รับความเชื่อถือกับผู้บริโภค
- กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม: การผลิตจานชามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการขยะที่เกิดจากการผลิต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล
2.การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้แบรนด์มีความเป็น Home And Lifestyle เป็นของที่ใช้งานตามวัตถุประสงค์และเป็นได้ทั้งของตกแต่งบ้าน ตกแต่งห้องครัวและบนโต๊ะอาหาร
- บรรจุภัณฑ์ใช้งานง่ายน่าหยิบออกใช้งานสำหรับผู้บริโภค
- สร้างความน่าเชื่อถือ ความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมั่นคง จนเกิดเป็นลูกค้าประจำ
- สินค้ามีความยั่งยืน ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ความเป็นมา จากการสังเกตว่าทำไมในบ้านเราถึงมีกล่องเซ็ทถ้วยชามเซรามิคอยู่ในบ้านเยอะแยะ บางอันไม่เคยได้เอาออกมาใช้เลยก็มี เก็บใส่ตู้ไว้จนไม่มีที่จะเก็บ บางทีเก็บไว้ในที่ที่มองไม่เห็นเป็นประจำจนลืมว่าเคยซื้อมาไว้ก็มี นี่คงเป็นปัญหาของเหล่าแม่บ้านหรือคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านอยู่อย่างแน่นอน เราจึงได้ทำการวิเคราะห์ถึงปัญหาและเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาผ่าน Packaging ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าในการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค จนออกมาเป็น ที่เก็บถ้วยเซรามิคจากกล่องบรรจุภัณฑ์
3.การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
Customer Analysis
STP
Segmentation
Demographic
- แบ่งตามช่วงอายุ Gen X , Gen Y , Gen Z
- เพศ ชาย , หญิง
- สถานะ โสด , มีครอบคครัวแล้ว
Behavioral
- ซื้อตามเทรนด์
- ซื้อสินค้าเพื่อความคุ้มค่าช่วงโปรโมชั่น
- ซื้อเพื่อเตรียมไว้ใช้ในอนาคต
- ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยการใช้จานชามเดิมๆ
- รู้สึกผิดที่ซื้อของมาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์
Psychographic
- เพื่อต้องการเก็บสะสมหรือเพื่อเป็นของขวัญในอนาคต
- เพื่อเตรียมไว้ใช้ในโอกาสพิเศษหรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- เพื่อตกแต่งบ้าน จากดีไซน์และความสวยงาม
Targeting
Customer Insight
- มันสวย ซื้อมาแล้วไม่กล้าใช้กลัวมันเก่า
- เคยเก็บไว้ในกล่องจนลืมไปแล้วว่าเคยซื้อมา
- ซื้อมาก่อนเผื่อได้ใชในอนาคตแบบว่าเผื่อญาติๆ หลานมาหา
- ซื้อเป็นเซ็ทตอนมันลดราคามันคุ้มกว่า ก็เลยซื้อ
- ถ้าจะเปลี่ยนเซ็ทตอนเก็บมันยุ่งยาก
- ชอบซื้อ ชอบเก็บ กลัวหาไม่ได้อีก
- เป็นคนทำอาหารเลยชอบเก็บสะสมพวกถ้วยชามสวยๆ
- เอามาไว้ตกแต่งบ้านค่ะ
กลุ่มเป้าหมายหลัก
- คุณแม่ซื้อมาก่อนเดี๋ยวมันต้องได้ใช้
- ผู้หญิง Gen X , Y ที่มีครอบครัวใหญ่ ชอบซื้อของใช้ถ้วยชามเข้าบ้านเพราะกังวลว่าจะไม่มีใช้ตอนมีช่วงเวลาพิเศษหรือโอกาสพิเศษ เน้นที่ความคุ้มค่า เช่น การขายแบบเป็นเซ็ทหรือขายแบบมีโปรโมชั่น ซื้อเก็บจนลืมไปบ้างว่าซื้ออะไรมาบ้าง
กลุ่มเป้าหมายรอง
- Trendy ของมันต้องมี
- ผู้หญิง Gen Z อยู่คนเดียว มีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น ชอบแต่งบ้าน บรรยากาศบ้านที่เข้ากับสไตล์ตัวเองคือ Save Zone ทำกับข้าวเอง อัพเดทเครื่องครัวตลอด เห็นจานชามที่สวยๆ น่ารักเป็นต้องซื้อแม้จะไม่ได้ใช้จริงจังเพราะกลัวว่าจะหาซื้ออีกไม่ได้แล้ว
Positioning
- Home and Lifestyle
- พานทอง จะเป็นมากกว่าแบรนด์ถ้วยเซรามิค ผ่านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น สามารถตอบสนองได้ทั่งด้านการใช้งานที่สะดวกสบายและสวยงามเป็น 1 อย่างที่สามารถวางตกแต่งบ้าน ครัวหรือโต๊ะอาหารได้
- Eco Friendly
- เป็นมิตรต่อผู้บริโภคด้วยบรรจุที่ใช้งานง่ายหยิบจับสะดวก แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้จริง
- Home and Lifestyle
- พานทอง จะเป็นมากกว่าแบรนด์ถ้วยเซรามิค ผ่านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น สามารถตอบสนองได้ทั่งด้านการใช้งานที่สะดวกสบายและสวยงามเป็น 1 อย่างที่สามารถวางตกแต่งบ้าน ครัวหรือโต๊ะอาหารได้
- Eco Friendly
- เป็นมิตรต่อผู้บริโภคด้วยบรรจุที่ใช้งานง่ายหยิบจับสะดวก แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้จริง
4.การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ
ชื่อแบรนด์ Phan Thong
ผลิตภัณฑ์ เซ็ทถ้วยเซรามิค 4 ใบ
สโลแกน สวยไม่ต้องเก็บ
สี น้ำเงินเข้ม ส้ม
คุณสมบัติพิเศษของบรรจุภัณฑ์ สามารถใช้เป็นที่เก็บที่วางถ้วยเซรามิค กันน้ำ ใช้ซ้ำได้
ประโยชที่ผู้บริโภคได้รับ สามารถใช้กล่องเป็นที่เก็บถ้วยเซรามิคได้ สะดวกต่อการหยิบใช้งาน เป็นของตกแต่งโต๊ะอาหาร ห้องครััวได้ ไม่ต้องซื้อที่วางถ้วยชามเพิ่ม
การออกแบบบรรจุภัณฑ์
รูปแบบบรรจุภัณฑ์ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสบรรจุเซ็ทถ้วยเซรามิค 4 ใบ ฝาด้านหน้าใส บุหน้ากล่องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อเปิดและตั้งโชว์ ข้างในกล่องมีชั้นรองฐานถ้วยเซรามิค 1 ชิ้น
วัสดุ กระดาษลูกฝูกลอน A สกรีนสีและลวดลายกัน้ำกันน้ำ ฝาหน้าเป็นพลาสติกใส
5.กิจกรรมทางการตลาดและการพัฒนาแบรนด์บรรจุภัณฑ์
4PS
Product เซ็ทถ้วยเซรามิค 4 ใบ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค สังคม สิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน ด้วยหลัก 3R Reduce ไม่ต้องซื้อที่เก็บจานเพิ่ม Reuse ใช้ซ้ำได้จากวัสดุที่ทนทาน Recycle เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นที่เก็บถ้วย ด้วยวิธีไม่ยาก
Price ราคาเซ็ทละ 459 บาท
Place ออนไลน์ ผ่านแฟลตฟอร์ม Online Shopping เช่น TIKTOK , SHOPEE , LAZADA
ออฟไลน์ ผ่านร้านสำหรับของตกแต่งบ้าน เช่น IKEA , HOMEPRO , บุญถาวร
Promotion
การใช้เครื่องมือทางการตลาด IMC Tools
1.advertising
- มีการทำโฆษณาผ่าน Affiliate Marketing ผ่านแพลตฟอร์ม Online Shopping เพื่อให้ได้คอนเทนต์ที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด
- ยิงแอดโฆษณาผ่าน Facebook ไปยังกลุ่มเป้าหมายและมีการลงทะเบียนอีเมลรับส่วนลด 10 % เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้า
2.direct marketing
- มีการส่งอีเมลไปหากลุ่มเป้าหมายที่มีการลงทะเบียนไว้ เพื่อนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นเฉพาะเทศกาลหรือวันเกิดของเจ้าของอีเมลล์ที่ลงทะเบียน
3.sales promotion
- มีการลดราคา 20 % ในวันเกิดของกลุ่มเป้าหมาย
4.public relation
- ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม วัสดุสามารถมา Reuse- Reduce-Recycle ได้
Big Idea สวยไม่ต้องเก็บ
Phan Thong ต้องกาาที่เติมเติมคุณค่าให้แก่ทุกคนที่ใช้เซ็ทถ้วยเซรามิคของ Phan Thong โดยจะทำวิธีการต่าง ที่จะเติมเต็มคุณค่าให้กับผู้ที่ใช้สินค้าของพานทองและรวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบข้างด้วย
กลยุทธ์
1. สวยโลกต้องรู้
Journey: Brand Image, Awareness และ Purchase
IMC Tools: Advertising , Affiliate Marketing
Objective: สร้างการรับรู้เกี่ยวกับเซ็ทถ้วยเซรามิค Phan Thong และลูกค้าลงทะเบียนอีเมลรับส่วนลด
Why: เพื่อสร้างการรับรู้และบอกเล่าถึงแบรนด์และวิธีการใช้เซ็ทถ้วยเซรามิคของ Phan Thong
Target: คุณแม่ซื้อมก่อนเดี๋ยวมันต้องได้ใช้ , Trendy ของมันต้องมี
Platform: TIKTOK , SHOPEE , LAZADA
Detail: ทำคอนเทนต์โฆษณาเพื่อสนับสนุนการขาย โดยรูปแบบคอนเทนต์จะเป็นการทำคลิปโฆษณาตามสไตล์ของอินฟลูเอนเซอร์ จะเป็นรูปแบบแนะนำสินค้า วิธีการใช้ การจัดวางให้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์
2. สวยเข้าลุค
Journey: Brand Image, Awareness ,Customer Relationship
IMC Tools: direct marketing
Objective: สร้างการรับรู้เกี่ยวกับเซ็ทถ้วยเซรามิค Phan Thong
Why: เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้า
Target: คุณแม่ซื้อมาก่อนเดี๋ยวมันต้องได้ใช้ , Trendy ของมันต้องมี
Platform: อีเมล
Detail: อีเมลเสนอสินค้าและ Mock Up 3D ให้ลูกค้าได้ลองจัดเซ็ทถ้วยเซรามิคให้เข้ากับของที่ลูกค้ามีเพื่อลดการตัดสินใจในการซื้อ
3.สวยที่ยังขาดหาย
Journey: Brand Image, Awareness ,Repurchase
IMC Tools: sales promotion
Objective: สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและสร้างการซื้อซ้ำ
Why: เพื่อให้ลูกค้าได้รีวิวการใช้งานและความคิดเห็นที่มีต่อบรรจุภัณฑ์ เพื่อเป็นการบอกต่อและตระหนักถึงคุณค่าของบรรจุภัณฑ์
Target: คุณแม่ซื้อมาก่อนเดี๋ยวมันต้องได้ใช้ , Trendy ของมันต้องมี
Platform: Facebook , TIKTOK
Detail:สร้างแคมเปญติด #ถ้วยเซรามิค PhanThong #Packaging PhanThong เพื่อให้ลูกค้าได้รีวิวการใช้งานผ่านคลิปวิดีโอหรือรูปภาพและรับส่วนลด 20% ในการซื้อครั้งถัดไป
6.การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์
KPI
- สวยโลกต้องรู้
มียอดผู้ลงทะเบียนอีเมล 10,000 คน และยอด Engagement ใน TIKTOK , SHOPEE , LAZADA
300,000 ครั้ง และมียอดการสั่งซื้อ 20 % จากยอดผู้ลงทะเบียนรับส่วนลด ในระยะเวลา 2 เดือน
- สวยเข้าลุค
มียอดการใช้งาน Mock Up 3D 7,500 ครั้ง และยอดการสั่งซื้ออีก 3,000 ครั้ง ในระยะเวลา 3 เดือน
- สวยที่ยังขาดหาย
มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 5,000 คน และยอด Engagement ทั้งหมด 100,000 ครั้ง
มียอดการสั่งซื้อ 20 % ของผู้เข้าร่วม ในระยะเวลา 1 เดือน