โคฟี่

Team : Grow up
Member
Ms Wimvipa Popee
Ms Sopita Klinmalai
Kopi coffee ผลิตภัณฑ์แคปซูลกาแฟที่มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ใช้โดยคำนึงถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งตัวของแคปซูลกาแฟ และกล่องบรรจุภัณฑ์ภายนอกที่เลือกใช้วัสดุส่วนใหญ่จากกระดาษ ตัวแคปซูลเคลือบด้วยไบโอพลาสติกเพื่อป้องกันความชื้นไม่ให้ผ่านเข้าไปได้ ทำให้ตัวกาแฟด้านในแคปซูลมีคุณภาพใกล้เคียงกับแคปซูลที่ใช้อลูมีเนียมหรือพลาสติก ตัวบรรจุภัณฑ์ภายนอกถูกออกแบบให้สามารถนำมาปลูกต้นกล้าต้นไม้ ดอกไม้ หรือผักสวนครัวได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปซื้อถุงเพาะชำ และปุ๋ยใหม่ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ได้รวมอยู่ในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดและตัวกากกาแฟสามารถนำมาเป็นปุ๋ยได้
วัตถุประสงค์
- เพิ่มมูลค่า
- สามารถ Reduce Reuse Recycle ได้
- เพิ่มพื้นที่สีเขียว
- สามารถย่อยสลายได้เร็ว
S.W.O.T.
Strengths
1. สินค้ามีคุณภาพ
2. วัสดุที่ใช้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3. ลดการใช้พลาสติก
4. สามารถย่อยสลายได้เร็ว
5. สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่
6. ออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์
7. ลดขยะจากแคปซูลกาแฟและบรรจุภัณฑ์ภายนอก
8. สร้างการรับรู้เชิงบวกให้กับแบรนด์
Weakness
1. อาจจะรับแรงดันน้ำได้ไม่เท่าบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากอลูมิเนียมหรือพลาสติก เนื่องจากกระดาษสามารถรับแรงดันได้ประมาณ 13 bar แต่เครื่องชงกาแฟมีแรงดันน้ำตั้งแต่ 9-15 bar แต่ยังคงสามารถใช้งานได้กับเครื่องที่มีแรงดันน้อยกว่าหรือเท่า 13 bar
2. ต้นทุนการผลิตสูงกว่าในช่วงแรก : การใช้ bio-plastic และการเคลือบอาจมีต้นทุนที่สูงกว่าการใช้พลาสติกหรืออลูมิเนียมแบบเดิม ซึ่งอาจส่งผลต่อต้นทุนของผลิตภัณฑ์และราคาในตลาด
3. ความซับซ้อนในการผลิตมากกว่าการผลิตทั่วไป : โรงงานหรือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอาจต้องปรับปรุงหรือลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่
Opportunity
1. การตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม : ปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มที่ใส่ใจและตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้วัสดุจากธรรมชาติและสามารถย่อยสลายได้เร็วที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้
2. ตลาดสำหรับสินค้ายั่งยืน : ตลาดผลิตภัณฑ์ยั่งยืนเติบโตอย่างต่อเนื่อง การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดขยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่สนใจสินค้ารักษ์โลก
3. โอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศ : ในหลายๆประเทศมีนโยบายและกฎหมายในการลดใช้พลาสติกและสนับสนุนสินค้าที่สามารถรีไซเคิลได้ จะช่วยให้แบรนด์เจาะตลาดใหม่ได้ง่ายขึ้น
4. การสร้างแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขาย : การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อปลูกต้นไม้ได้สามารรถนำมาใช้ในแคมเปญเพื่อการตลาดที่เน้นความยั่งยืน
Threats
1. การแข่งขันในตลาดสูง : มีหลายแบรนด์หันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
2. การยอมรับของผู้บริโภค : ผู้บริโภคอาจมีความกังวลต่อบรรจุภัณฑ์เนื่องจากเป็นกระดาษ อาจต้องใช้เวลาในการให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
Target Audiences
มุ่งเน้นไปที่กลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 25-45 ปี ที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ เน้นความสะดวกสบาย และกลุ่มคนใส่ใจสินค้ารักษ์โลก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ไม่มีความซับซ้อนในการใช้งานและไม่ต้องเตรียมหรือใช้อุปกรณ์เยอะ แต่ยังคงคุณภาพของกาแฟที่ดีไว้ ซึ่งเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย เร็ว และเน้นคุณภาพ พร้อมกับสามารถใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาเดียวกัน
การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ
บรรจุภัณฑ์แคปซูลกาแฟ:
แบรนด์เลือกใช้เยื่อกระดาษแทนอลูมิเนียมหรือพลาสติกสำหรับแคปซูลกาแฟ การเลือกนี้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากกระดาษสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ นอกจากนี้ แคปซูลยังเคลือบด้วย ไบโอพลาสติกเพื่อป้องกันความชื้นเข้ามา ทำให้มั่นใจได้ว่ากาแฟด้านในจะคงคุณภาพไว้ได้
บรรจุภัณฑ์ภายนอกสำหรับแคปซูลกาแฟ:
บรรจุภัณฑ์ภายนอกทำจากกระดาษและออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากไทยทำให้ดูน่าดึงดูดใจและเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมให้กับผลิตภัณฑ์ การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Market size
ขนาดตลาดกาแฟในประเทศไทย
- ในปี 2023 ตลาดกาแฟในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 60,000-70,000 ล้านบาท (ประมาณ 1.8-2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
- อัตราการเติบโตของตลาดกาแฟในประเทศไทย (CAGR) อยู่ที่ประมาณ 5-8% ต่อปี
- คาดว่าตลาดกาแฟในประเทศไทยจะมีมูลค่ามากกว่า 80,000 ล้านบาท ภายในปี 2026
ขนาดตลาดบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทั่วโลก
- ในปี 2023 ขนาดตลาดบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 305.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- คาดว่าตลาดนี้จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ประมาณ 6-7% ในช่วงปี 2023-2030
- คาดการณ์ว่าขนาดตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 490.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030
กิจกรรมทางการตลาด
1. การสร้างแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขาย : การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อปลูกต้นไม้ได้สามารรถนำมาใช้ในแคมเปญเพื่อการตลาดที่เน้นความยั่งยืน
2. แคมเปญดิจิตอล : การทำการตลาดโดยใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook Instagram Twitter เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยการจัดกิจกรรมผ่านแพลตฟอร์มเหล่านั้น เช่น กิจกรรมการแจกสินค้า
3. การทำการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ : การทำกิจกรรมร่วมกับบุคคลที่มีอิทธิพลทางโซเชียลมีเดีย เพื่อให้สินค้ามีความน่าสนใจ มีความน่าเชื่อถือ และเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
4. แคมเปญเพื่อสังคม : โดยเน้นสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับการปลูกกาแฟเพื่อการส่งเสริมเกษตรกรหรือกลุ่มผู้ผลิตรายเล็กให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
การวัดผลทางการตลาด
ประสิทธิผลของแคมเปญเหล่านี้สามารถประเมินได้โดยใช้ KPI เช่น ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ข้อเสนอแนะของลูกค้าเกี่ยวกับความยั่งยืน และมาตรวัดการมีส่วนร่วมจากแพลตฟอร์มดิจิทัล