SCGP

ทวิสตี้

Idea Tank
Team : Shallwhip

Member

Ms Manassanan Hongwattanakul

Mr Phuwit Vitayarueangdej

Mrs Chavisa Srisuwan

ที่มา

ผ้าอนามัยเป็นสิ่งของอุปโภคบริโภคที่ผู้หญิงทุกคนจำเป็นต้องใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดขยะกว่า 4000 ล้านชิ้นต่อปีในประเทศไทย โดยยังไม่นับขยะที่ตามมาจากบรรจุภัณฑ์ผ้าอนามัยและอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับการทิ้งผ้าอนามัย เช่น กระดาษทิชชู่ กระดาษห่อ เเละกระดาษหนังสือพิมพ์ อีกกว่า20% ซึ่งขยะจำพวกนี้สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อใช้ใหม่ได้ เเต่เมื่อถูกทิ้งพร้อมกับผ้าอนามัยก็กลับกลายเป็นขยะเน่าเสียที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก อีกทั้งเรายังพบกับปัญหาของผู้หญิงอีกมากในการทิ้งผ้าอนามัย เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันนั้นไม่เอื้อให้สามารถทิ้งได้ง่ายเเละเรียบร้อย หลายครั้งที่ผู้ใช้งานต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาวัสดุเพื่อห่อให้ได้อย่างเรียบร้อย จึงนำมาซึ่งความขี้เกียจของใครหลายๆคน ทำให้บ่อยครั้งจะสามารถพบผ้าอนามัยที่อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยซึ่งสร้างผลกระทบต่อจิตใจของผู้อื่นที่มาพบเห็นได้

แนวคิด

Twisty ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคสำหรับผู้หญิงเมื่อมีประจำเดือน ออกแบบภายใต้แนวคิด “เพิ่มเพื่อลด” โดยปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ผ้าอนามัยให้สามารถเป็นอุปกรณ์ในการทิ้งผ้าอนามัยได้ด้วยตัวบรรจุภัณฑ์เอง โดยมีการเพิ่มพื้นที่ขนาดบรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้นเพียง 1% เพื่อลดการเกิดขยะที่เกิดจากการใช้วัสดุเพิ่มเติมเพื่อทิ้งผ้าอนามัย 20%

การออกแบบ

Twisty มีการปรับสัดส่วนแผ่นรองแถบกาวจากบรรจุภัณฑ์ผ้าอนามัยในท้องตลาด ให้สามารถนำมาใช้ในการทิ้งบรรจุภัณฑ์หลังใช้งาน เนื่องจากแผ่นรองแถบกาวบรรจุภัณฑ์ในท้องตลาดมักเป็นขยะที่ไม่เกิดประโยชน์ โดย Twisty แก้ปัญหานี้ด้วยการปรับเปลี่ยนดีไซน์และเพิ่มขนาดเพียง 1% เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำตัวบรรจุภัณฑ์เป็นอุปกรณ์ในการทิ้งผ้าอนามัย เพียงวางบรรจุภัณฑ์ไปบนผ้าอนามัย ทำการม้วน และบิดปลายแถบกาวของบรรจุภัณฑ์เพื่อปิดสิ่งไม่พึงประสงค์ที่มักมองเห็นจากการทิ้งผ้าอนามัยในรูปแบบเดิม ก็สามารถช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทิ้งผ้าอนามัยโดยใช้บรรจุภัณฑ์ได้อย่างมีประโยชน์เต็มที่ สะดวกสบายและไม่สร้างภาพไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการทิ้งผ้าอนามัยเเบบเดิมต่อผู้อื่น

Marketing Plan

วิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ : ผ้าอนามัยเป็นสิ่งของอุปโภคบริโภคที่ผู้หญิงทุกคนจำเป็นต้องใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดขยะกว่า 4000 ล้านชิ้นต่อปีในประเทศไทย โดยยังไม่นับขยะที่ตามมาจากรรจุภัณฑ์ผ้าอนามัยและอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับการทิ้งผ้าอนามัย เช่น กระดาษทิชชู่ กระดาษห่อ เเละกระดาษหนังสือพิมพ์ อีกกว่า20% ซึ่งขยะจำพวกนี้สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อใช้ใหม่ได้ เเต่เมื่อถูกทิ้งพร้อมกับผ้าอนามัยก็กลับกลายเป็นขยะติดเชื้อและต้องทำการฝังกลบอย่างระมัดระวัง

กลุ่มลูกค้า เป้าหมาย รายละเอียด insight กลุ่มเป้าหมาย : ผู้หญิงวัยประจำเดือน ( 10-55ปี) อ้างอิงจากรายงานสำนักบริหารการทะเบียนประเทศไทยมีประชากรหญิงที่อยู่ในวัยมีประจำเดือน 26.9 ล้านคน (ร้อยละ 41.3) โดย ผู้หญิงหนึ่งคนใช้ผ้าอนามัยเฉลี่ยประมาณ 300 แผ่นต่อปี ทำให้ความต้องการผ้าอนามัยในประเทศไทยมีกว่า 4,000,000,000 เเผ่นต่อปี จากการสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลเราพบกับปัญหาของผู้หญิงอีกมากในขั้นตอนการทิ้งผ้าอนามัย เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันนั้นไม่เอื้อให้สามารถทิ้งได้ง่ายเเละเรียบร้อย หลายครั้งที่ผู้ใช้งานต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาวัสดุเพื่อห่อให้ได้อย่างเรียบร้อย ทำให้บ่อยครั้งจะสามารถพบผ้าอนามัยที่อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยซึ่งสร้างผลกระทบด้านสุขภาวะและสุขอนามัยต่อผู้พบเจอ

เป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์ : ขยายรูปแบบแพคเกจให้สามารถใช้งานได้กับผ้าอนามัยหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น ผ้าอนามัย แบบสอด และสามารถพัฒนารูปแบบการพับแบบเดียวกันร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงเช่น แพมเพิส, อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง พัฒนาแคมเปญบิดเพื่อเปลี่ยนให้ติดตลาดและให้ทุกคนสามารถช่วยกันรักษาความสะอาดส่วนรวมได้อย่างสะดวกและทำได้ทุกวัน

กิจกรรมทางการตลาด : เเคมเปญ “บิดเพื่อเปลี่ยน” สร้างความตระหนักรู้ถึงข้อดีของการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ดียังไง ช่วยสิ่งเเวดล้อมเเละสร้างความสะดวกสบายต่อผู้ใช้อย่างไร ผ่านการทำคอนเทนต์ในโซเชียลมิเดีย เเละการทำกิจกรรมในspace ต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายต้องผ่านในชีวิตประจำวัน

การออกเเบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมเเละสิ่งเเวดล้อม : การใช้ผ้าอนามัยนั้้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้การที่ทิ้งผ้าอนามัยก็เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและยังเกิดขยะจากชิ้นส่วนที่เกินความจำเป็น ทางทีมงานจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาในหัวข้อ “เพิ่มเพื่อลด” เพิ่มวัสดุเพียง 1% เพื่อลดการเกิดขยะที่ไม่จำเป็นอีก 20% ที่เกิดจากการทิ้งผ้าอนามัย

การวัดผลทางการตลาดและแบรนด์ : ผู้บริโภครู้จัก จดจำแบรนด์และรับรู้การมีอยู่ของแบรนด์ได้มาก มีการพูดถึงผ่านโซเชียลมีเดีย ปริมาณลูกค้าที่เกิดขึ้นจากแคมเปญและการคำนวณจากรายได้ ช่วยให้เข้าใจสัดส่วนที่เกิดขึ้นและปริมาณผลกระทบกับสังคมที่เป็นในทิศทางบวก

other Ideas