21 วันดีขึ้นพร้อมคุณ

การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ

อ้างอิงจากผลการวิจัยจากวรสารบริหารธุรกิจศรีนครินทรวิโรฒต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามิน พบว่าเพศหญิงในช่วงวัยทำงาน (อายุระหว่าง 15- 24ปี)มีแนวโน้มในการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินมากกว่าเพศชาย เนื่องจากต้องการดูแลเรื่องสุขภาพร่างกาย และความสวยงามเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทวิตามินจำนวนเงิน 1,156.07 บาท/ครั้ง และมีปริมาณการซื้อ 3 ครั้งในรอบ 6 เดือนซึ่งเทรนด์ดังกล่าวส่งผลดีต่อบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผู้พัฒนาได้ออกแบบ ซึ่งถูกออกแบบมาให้ผู้บริโภคสามารถนำไปใช้เป็นกล่องเก็บเครื่องประดับซึ่งมีความสวยงามน่าใช้ และแข็งแรงทนทาน ภายในมีราวสำหรับแขวนซองวิตามิน โดยใน 1 กล่องจะประกอบด้วยวิตามินจัดเซ็ตสำหรับผู้บริโภคเพศหญิงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นจำนวน 21 ซอง (อ้างอิงจากทฤษฎีที่ปรากฏในหนังสือ Psycho-Cybernetics ของ Dr. Maxwell Maltz ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ซึ่งกล่าวว่าคนเราจะทำบางสิ่งบางอย่างจนติดเป็นนิสัยเมื่อทำสิ่งนั้นซ้ำๆเป็นเวลา 21 วัน) เมื่อผู้บริโภครับประทานวิตามินจนหมดก็จะสามารถนำบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวมาแขวนเครื่องประดับ เช่น สร้อยข้อมือ หรือสร้อยคอได้ สำหรับบรรจุภัณฑ์ซองวิตามินผลิตจากกระดาษแบบFood grade ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนบนเป็นซองที่บรรจุกำไลข้อมือ และจี้ชาร์มสำหรับให้สะสม ด้านล่างตัวกระดาษจะถูกเคลือบด้วยฟิลม์อีกชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าสู่วิตามิน ซึ่งซองที่ใช้แล้วก็ยังสามารถนำมาทำเป็นกระดาษโน้ตได้ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์แนวคิดZero Waste เพื่อหาแนวทางในการลดขยะให้เหลือศูนย์ หรือลดจำนวนขยะต่อคนให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นการหยุดปัญหาตั้งแต่ต้นทางแทนที่จะกำจัดปัญหาขยะที่ปลายทาง

การวิเคราะห์ทางการตลาด (SWOT Analysis)

จุดแข็ง (Strengths)

1. ตัวบรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรงทนทาน และใช้งานได้จริงในระยะยาว

2. บรรจุภัณฑ์สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นซองกระดาษบรรจุวิตามินที่นำมาเป็นกระดาษโน้ต และกล่องอะคริลิกใสที่เมื่อทานวิตามินเสร็จแล้วก็สามารถนำมาใช้เก็บเครื่องประดับได้ นับว่าเป็นช่วยลดปัญหาการสร้างขยะตอบโจทย์เทรนด์บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกในยุคปัจจุบันซึ่งมีแนวโน้มเพิ่งสูงขึ้น

3. ผู้พัฒนาบรรจุภัณฑ์มีความรู้ และทักษะทางด้านเทคโนโลยีการอาหาร โดยสามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับวิตามินที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสามารถคงอายุการเก็บได้เทียบเท่าบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบขวดหรือซองฟอยล์

4. การออกแบบมีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนกับบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาที่มีตามท้องตลาด เหมาะทั้งกับการซื้อรับประทานเอง หรือเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ

5. มีแนวทางการตลาดดึงดูดใจผู้บริโภค โดยสร้างวิตามินในแต่ละวันจะมีการแถมจี้ชาร์มสำหรับกำไลข้อมือแบบสุ่ม (ซองแรกในวันที่1ของการรับประทานจะมีการแถมสร้อยข้อมือเปล่า ส่วนวันต่อๆไปจะเป็นชาร์มสำหรับร้อยใส่กับกำไล) เป็นกุศโลบายให้ผู้บริโภคอยากรับประทานวิตามินทุกวัน

6. สำหรับผลิตภัณฑ์วิตามินในแต่ละซอง จะถูกจัดเซ็ตให้เหมาะสำหรับผู้บริโภคเพศหญิงในช่วงอายุวัยทำงาน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการรับประทานโดยไม่ต้องซื้อวิตามินแยกหลายชนิดซึ่งมีราคาสูง

จุดอ่อน (Weaknesses)

1. ผู้พัฒนาไม่มีความรู้ และทักษะในการทำการตลาดรวมถึงแผนธุรกิจ

2. ผู้พัฒนาไม่มีทุนทรัพย์ และความรู้ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์

3. บรรจุภัณฑ์วิตามินในรูปแบบซองแขวนในกล่องอะคริลิกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังไม่เป็นที่รู้จัก และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากนัก

โอกาส (Opportunities)

1. ในตลาดปัจจุบันยังไม่มีแบรด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่นในรูปแบบซองฟอยล์ที่มีพลาสติกเป็นส่วนประกอบซึ่งไม่สามารถนำไปรีไซเคิล

2. กลุ่มลูกค้าในปัจจุบันมีแนวโน้มให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพ และความงามมากขึ้น โดยการจัดเซ็ตวิตามินจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับประทานให้แก่ผู้บริโภค

3. กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มให้ความสนใจกับเทรนด์ด้านบรรจุภัณฑ์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน ซึ่งบรรจุภัณฑ์วิตามินนี้สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ โดยถูกออกแบบให้เป็นกล่องแขวนเครื่องประดับที่สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง และมีความแข็งแรงทนทาน

4. บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบกล่องเก็บเครื่องประดับ พร้อสร้อยข้อมือและจี้ชาร์มแบบสุ่ม เป็นการเพิ่มภาพจำให้แก่สินค้า และแบรนด์ อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดความสนใจในการซื้อของลูกค้า

อุปสรรค (Threats)

1. ความไม่สมดุลทางด้านเศรฐกิจซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อของผู้บริโภค และการเติบโตของธุรกิจ

2. ข้อจำกัดทางด้านทรัพยากรซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของแบรนด์

3. ในท้องตลาดมีแบรด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลากหลายยี่ห้อซึ่งเป็นการยากที่แบรด์จะสามารถแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดมาได้

การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาแบรด์

ผู้พัฒนาจะเน้นพัฒนาบรรจุภัณฑ์ภายใต้แนวคิดZero waste โดยมุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณขยะที่สังคมสร้างขึ้น การลดปริมาณการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น การใช้ซ้ำ และการคัดแยกเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ ซึ่งผู้บริโภคสามารถนำเอาบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาในรูปแบบของกล่องสำหรับเก็บเครื่องประดับไปใช้ได้จริงหลังจากการรับประทานวิตามินครบตามจำนวนวัน และผู้พัฒนายังมุ่งเน้นการใช้ส่วนประกอบทุกส่วนของบรรจุภัณฑ์ให้เกิดคุณค่ามากที่สุด เช่น การนำเอาซองกระดาษสำหรับบรรจุวิตามินไปใช้เป็นกระดาษโน้ตซึ่งสุดท้ายแล้วกระดาษดังกล่าวจะสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และในส่วนของจี้ชาร์มที่แถมมาในซองวิตามินแต่ละซองจะผลิตมาจากขยะพลาสติกโดยนำมาขึ้นรูปใหม่ให้เกิดรูปร่างที่สวยงาม

การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และรายละเอียด Insight ของกลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายหลัก

1. กลุ่มผู้บริโภคที่สนใจอยากเริ่มทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เหมาะกับช่วงวัย

โดยบรรจุภัณฑ์ของผู้พัฒนาได้ออกแบบให้อยู่ในรูปแบบซองแบบจัดเซ็ตวิตามินที่จำเป็นในแต่ละวัน โดยหนึ่งกล่องจะบรรจุวิตามิน 21 ซอง เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเคยชินในการรับประทานวิตามินเสริม

2. กลุ่มผู้บริโภคที่มีความตื่นตัวกับเทรนด์บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก และแนวคิดZero waste

บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ซ้ำได้โดยนำมาทำเป็นกล่องเก็บเครื่องประดับ ซึ่งวัสดุที่ใช้จะมีความแข็งแรงคงทน รวมถึงทุกส่วนประกอบของบรรจุภัณฑ์ล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การนำซองบรรจุวิตามินมาใช้เป็นกระดาษโน้ตซึ่งกระดาษดัวกล่าวสามารถย่อยสลายได้เอง และจี้ชาร์มที่แถมมาในแต่ละซองก็ทำมาจากขยะพลาสติก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลด และเพิ่มมูลค่าให้แก่ขยะพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก

3. กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการความคุ้มค่า

โดยในส่วนของตัวบรรจุภัณฑ์ถูกออกมาเพื่อเป็นทั้งบรรจุภัณฑ์ และกล่องสำหรับเก็บเครื่องประดับเมื่อผู้บริโภครับประทานวิตามินครบตามกำหนด อีกทั้งในแต่ละซองของผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยังมีการสุ่มแถมจี้ชาร์มสำหรับใส่กับสร้อยข้อมือ

กลุ่มเป้าหมายรอง

กลุ่มผู้บริโภคที่มองหาของขวัญสำหรับโอกาสพิเศษ

เนื่องจากตัวบรรจุภัณฑ์สามารถนำไปใช้เป็นกล่องเก็บเครื่องประดับได้ อีกทั้งยังมีสร้อยข้อมือและจี้ชาร์มแถมเป็นซองสุ่มในทุกๆซอง เหมาะแก่การซื้อเป็นของขวัญสำหรับโอกาสพิเศษ

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อมของแบรด์และผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ

ผู้พัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์วิตามินในรูปแบบซองแขวนซึ่งบรรจุในกล่องอะคริลิกใส ซึ่งภายหลังจากรับประทานวิตามินจนครบจำนวนวันแล้วผู้บริโภคจะสามารถนำบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวไปใช้เป็นกล่องสำหรับแขวนเครื่องประดับ เช่น กำไลข้อมือ และสร้อยคอ ในส่วนของซองบรรจุผลิตภัณฑ์ผลิตจากวัสดุกระดาษFood gradที่สามารถย่อยสลายได้เอง และส่วนที่จะต้องบรรจุเม็ดวิตามินจะถูกเคลือบอีกชั้นด้วยฟิลม์เพื่อป้องกันความชื้นช่วยในการยืดอายุการเก็บรักษาเม็ดวิตามินให้เทียบเท่ากับการเก็บรักษาในรูปแบบเดิมๆ เช่น ถุงฟอยล์ และ ขวดแก้วสีชา นับว่าเป็นการนำบรรจุภัณฑ์มาใช้ซ้ำ (Reuse) เพื่อลดการสร้างขยะตอบโจทย์กระแสความตื่นตัวของกลุ่มผู้บริโภคด้านบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก

ผู้พัฒนามีการจูงใจผู้บริโภคเพศหญิงในช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นโดยการแถมสร้อยข้อมือเปล่าในซองแรก และจี้ชาร์มซึ่งทำจากขยะพลาสติกที่นำมาขึ้นรูปใหม่ในซองต่อๆไป โดยจะเป็นการสุ่มลายจำนวน 20 รูปแบบ

กิจกรรมการตลาด และการพัฒนาแบรด์ผ่านบรรจุภัณฑ์

กลยุทธ์บรรจุภัณฑ์

ถูกออกแบบมาให้ผู้บริโภคสามารถนำไปใช้เป็นกล่องเก็บเครื่องประดับซึ่งมีความสวยงามน่าใช้ และแข็งแรงทนทานจากวัสดุอะคริลิกพลาสติกแบบใส ภายในมีราวสำหรับแขวนซองวิตามินจำนวน 21 ซอง (อ้างอิงจากทฤษฎีที่ปรากฏในหนังสือ Psycho-Cybernetics ของ Dr. Maxwell Maltz ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ซึ่งกล่าวว่าคนเราจะทำบางสิ่งบางอย่างจนติดเป็นนิสัยเมื่อทำสิ่งนั้นซ้ำๆเป็นเวลา 21 วัน) เมื่อผู้บริโภครับประทานวิตามินจนหมดจะสามารถนำกล่องอะคริลิกพลาสติกดังกล่าวมาแขวนเครื่องประดับ เช่น สร้อยข้อมือ หรือสร้อยคอได้ และเก็บไว้ในกล่องเพื่อป้องกันฝุ่นทั้งยังเป็นการช่วยจัดระเบียบเครื่องประดับอีกด้วย สำหรับซองวิตามินขนาด 5 x 15 ผลิตจากกระดาษแบบFood grade ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนบนเป็นซองที่บรรจุกำไลข้อมือ และจี้ชาร์มสำหรับให้สะสม ด้านล่างตัวกระดาษจะถูกเคลือบด้วยฟิลม์อีกชั้นเพื่อป้องกันความชื้นมิให้เข้าสู่วิตามินซึ่งทั้งสองส่วนจะสามารถฉีกแยกออกจากกันได้ง่ายๆด้วยรอยปรุ ซึ่งซองที่ใช้แล้วก็ยังสามารถนำมาทำเป็นกระดาษโน้ต ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์แนวคิดZero Waste เพื่อหาแนวทางในการลดขยะให้เหลือศูนย์ หรือลดจำนวนขยะต่อคนให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นการหยุดปัญหาตั้งแต่ต้นทางแทนที่จะกำจัดปัญหาขยะที่ปลายทาง สีของบรรจุภัณฑ์เน้นใช้เป็นชมพูสลับกับขาว ให้ความรู้อ่อนหวาน ร่าเริง สะอาดบริสุทธิ์ เหมาะกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ และความงามของเพศหญิงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น

กลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่าย

ทำการจัดจำหน่ายแบบทั่วถึงเพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมตลาด โดยเน้นวางขายผลิตภัณฑ์ตามร้านเพื่อสุขภาพ และความงาม รวมถึงร้านขายยา รวมถึงช่องทางออนไลน์เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายหลักที่มีจำนวนมากได้ อย่างไรก็ตามหากสินค้าได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งของกลุ่มเป้าหมายอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นการจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรโดยเลือกร้านค้าจำหน่ายเพียงบางจุดเท่านั้น

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด

1. เปิดบูธแสดงสินค้า โดยประชาสัมพันธ์ถึงจุดเด่น และวิธีการใช้งานของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่สนใจในตัวผลิตภัณฑ์วิตามินเพื่อบำรุงสุขภาพ และกล่องอะคริลิกสำหรับใส่เครื่องประดับ รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่อยากเริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะกับช่วงวัย

2. ประชาสัมพันธ์และขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น บนเว็บไซต์ของร้านเพื่อสุขภาพ และความงาม หรือร้านขายยา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

การวัดผลทางการตลาด และแบรนด์

1. ยอดการเข้าชม และสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์ของร้านขายยา หรือร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม และสุขภาพที่ทางแบรด์ได้รำสินค้าไปวางจำหน่าย

2.ยอดขายการของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ของผู้พัฒนา

3. ผลตอบรับของผู้บริโภคที่มีต่อตัวบรรจุภัณฑ์ที่ผู้พัฒนาได้ทำการพัฒนาขึ้น และนำเอาผลตอบรับดังกล่าวมาเพื่อเพื่อปรับปรุง และแก้ไขบรรจุภัณฑ์ต่อไป